เมนู

เทพบุตรนั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว
ดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าได้
เห็นภิกษุลำบากกาย หิวโหย ในกาลนั้น ข้าพเจ้า
จัดกับข้าวอย่างหนึ่ง ถวายพร้อมด้วยข้าวสวย เพราะ
บุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯ ล ฯ และ
วรรณะของข้าพเจ้าจึงว่างไสวไปทุกทิศ.

จบภิกขาทายกวิมาน

อรรถกถาภิกขาทายกวิมาน


ภิกขาทายกวิมาน มีคาถาว่า อุจฺจมิทํ มณิถูณํ วิมานํ เป็นต้น.
ภิกขาทายกวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เดินทางไกลเข้าไปบิณฑบาตยังหมู่บ้านตำบลหนึ่ง
ยืนใกล้ประตูเรือนหลังหนึ่ง. บุรุษผู้หนึ่งในเรือนหลังนั้น ล้างมือเท้าแล้ว
นั่งลงหมายจะบริโภคโภชนะ เมื่อเขาจัดโภชนะใส่ในภาชนะ เห็นภิกษุ
นั้น ก็เกลี่ยข้าวสวยในภาชนะของตน ลงในบาตรของภิกษุนั้น แม้ภิกษุ
นั้นจะบอกว่า ให้แต่ส่วนเดียวเถิด แต่ก็เกลี่ยลงหมดเลย ภิกษุนั้น
อนุโมทนาแล้วก็กลับไป. บุรุษผู้นั้นกำลังระลึกว่า เราไม่กินแต่ถวาย
ข้าวสวยนั้นแก่ภิกษุผู้หิวจัด ก็ได้ปีติโสมนัสอันโอฬาร ต่อมา เขาตาย

ก็ไปบังเกิดในวิมานทอง 12 โยชน์ ในภพชั้นดาวดึงส์ ท่านพระมหา
โมคคัลลานะเที่ยวเทวจาริกไป พบเทพบุตรนั้นรุ่งโรจน์ด้วยเทวฤทธิ์ยิ่ง
ใหญ่ จึงสอบถามด้วยสองคาถานี้ว่า
วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง 12 โยชน์ โดยรอบ
มีห้องรโหฐาน 700 โอฬาร ล้วนเสาแก้วไพฑูรย์
ปูลาดด้วยเครื่องลาดอันงามดี ท่านบรรลุเทวฤทธิ์แล้ว
มีอานุภาพมาก ฯ ล ฯ และวรรณะของท่านก็สว่าง
ไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกท่านพระโมคคัลลานะถาม
แล้ว ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าพบ
ภิกษุ ที่ลำบากกาย หิวโหย จึงปรุงกับข้าวอย่างหนึ่ง
โดยถวายพร้อมกับข้าวสวยในเวลานั้น. เพราะบุญ
นั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ ฯ ล ฯ และ
วรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เอกาหํ ภิกฺขํ ได้แก่ ข้าพเจ้าปรุง
อาหารพอเป็นกับอย่างหนึ่ง. อธิบายว่า กับข้าว อย่างหนึ่ง. บทว่า
ปฏิปาทยิสฺสํ ได้แก่ ปรุงถวาย. บทว่า สมงฺคิ ภตฺเตน แปลว่า
พร้อมกับข้าวสวย อธิบายว่า อาหารที่ได้แล้ว เมื่อเทพบุตรนั้นประกาศ
สุจริตกรรมของตนอย่างนี้แล้ว พระมหาเถระจึงแสดงธรรมแก่เทพบุตร
นั้น พร้อมกับบริวารแล้วกลับมามนุษยโลก กราบทูลเรื่องนั้นถวายแด่

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศาสดาทรงทำเรื่องนั้นเป็นอัตถุปปัตติเหตุเกิด
เรื่องแล้ว ทรงแสดงธรรมแก่มหาชนที่ประชุมกัน เทศนานั้น ก็ได้เกิด
ประโยชน์แก่มหาชนแล.
จบอรรถกถาภิกขาทายกวิมาน

7. ยวปาลกวิมาน


ว่าด้วยยวปาลกวิมาน


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ได้ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[71] วิมานแก้วมณีของท่านนี้ ฯ ล ฯ และ
วรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตนั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว
ดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของธรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าเป็นคน
เฝ้านาข้าวเหนียว ได้เห็นภิกษุผู้ปราศจากกิเลสดุจธุลี
ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว มีความเลื่อมใส จึงได้แบ่งขนม
สดถวายท่านด้วยมือของตน ครั้นแล้วจึงบันเทิงอยู่
ในสวนนันนทวัน เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะ
เช่นนี้ ฯ ล ฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสว
ไปทุกทิศ.

จบยวปาลกวิมาน