เมนู

5. ทุติยอุปัสสยทายกวิมาน


ว่าด้วยทุติยอุปัสสยทายกวิมาน


พระมหาโมคคัลลานนะเถระ

ได้ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[69] พระอาทิตย์ส่องแสงสว่างอยู่ในนภากาศ
อันปราศจากเมฆฝน ฉันใด ฯ ล ฯ พวกเราคือ
ข้าพเจ้าและภรรยา เมื่อยังอยู่ในมนุษยโลก ได้ถวาย
ที่อยู่แก่พระอรหันต์ มีจิตเลื่อมใส เมื่อบริจาคข้าว
และน้ำอันไพบูลย์เป็นทานโดยเคารพ.

เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะอย่างนี้ ฯ ล ฯ
และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบทุติยอุปัสสยทายกวิมาน

อรรถกถาทุติยอุปัสสยทายกวิมาน


ทุติยอุปัสสยทายกวิมาน มีคาถาว่า สุริโย ยถา วิคตพลาหเก
นเภ
เป็นต้น. ทุติยอุปัสสยทายกวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์
สมัยนั้น ภิกษุเป็นอันมาก จำพรรษาวัดใกล้หมู่บ้าน พากันเดินทาง
หมายกรุงราชคฤห์ เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า เวลาเย็นก็มาถึงหมู่บ้าน

ตำบลหนึ่ง. คำที่เหลือ ก็เช่นเดียวกับวิมานก่อน.
ท่านพระมหาโมคคัลลานะ สอบถามว่า
ดวงอาทิตย์โคจรไปในอากาศ ส่องแสงสว่าง
ในท้องฟ้า ที่ปราศจากพลาหก [ เมฆฝน ] ฉันใด
วิมานนี้ของท่าน ก็เปรียบฉันนั้น ฯ ล ฯ และ
วรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

วิมานนี้พึงทำให้พิสดารเหมือนวิมานก่อนในหนหลัง.
แม้ในคาถานั้น ก็กล่าวไว้แล้วทั้งนั้น.
จบอรรถกถาทุติยอุปัสสยทายกวิมาน

6. ภิกขาทายกวิมาน


ว่าด้วยภิกขาทายกวิมาน


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ได้ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[70] วิมานแก้วมณีของท่านนี้สูง 12 โยชน์
โดยรอบ มีห้องรโหฐาน 700 มีเสาแก้วไพฑูรย์
ปูลาดด้วยเครื่องลาดอันสวยงาม ท่านบรรลุเทวฤทธิ์
มีอานุภาพมาก ฯ ล ฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึง
สว่างไสวไปทุกทิศ.