เมนู

ปายาสิกวรรคที่ 6


อรรถกถาปฐมอคาริยวิมาน


ปฐมอคาริยวิมาน มีคาถาว่า ยถา วนํ จิตฺตลตํ ปภาสติ
เป็นต้น. ปฐมอคาริยวิมานนั้น เกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์
สมัยนั้น ตระกูล [ ครอบครัว ] หนึ่ง ในกรุงราชคฤห์ เป็นผู้เลื่อมใส
ทั้งสองฝ่าย พรั่งพร้อมด้วยศีลและจรรยา เป็นดุจบ่อน้ำของภิกษุและ
ภิกษุณีทั้งหลาย ทั้งสองภริยาสามีนั้นอุทิศพระรัตนตรัย ทำบุญจนตลอด
ชีวิต จุติจากภพนั้น แล้วไปบังเกิดในเหล่าภพชั้นดาวดึงส์ เทพทั้งสอง
นั้น เสวยทิพยสมบัติในดาวดึงส์นั้น. คำว่า ครั้งนั้น ท่านพระมหา-
โมคคัลลานะ
เป็นต้น พึงทราบ ตามนัยที่กล่าวมาแล้วในหนหลัง.
พระเถระถามว่า
จิตรลดาวัน อุทยานอันประเสริฐสูงสุด ของ
เหล่าเทพชั้นไตรทศ ย่อมส่องรัศมี ฉันใด วิมาน
ของท่านนี้ ก็อุปมาฉันนั้น ส่องรัศมีอยู่ในอากาศ.

ท่านบรรลุเทวฤทธิ์ มีอานุภาพมาก ครั้งเกิด
เป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไร เพราะบุญอะไร
ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่าน
จึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทวบุตรได้พยากรณ์สมบัติของตนว่า
เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถาม
แล้ว ก็พยากรณ์ [ตอบ] ปัญหาของกรรมที่มีผล
อย่างนี้ว่า

ในมนุษยโลก ข้าพเจ้ากับภริยา อยู่ครองเรือน
เป็นดุจบ่อน้ำ มีจิตเลื่อมใสแล้ว เมื่อบริจาคข้าวน้ำ
ได้ถวายทานอย่างไพบูล โดยเคารพ.

เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้
เพราะบุญนั้น ผลนี้จึงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า และโภคะ
ทุกอย่างที่น่ารัก จึงเกิดแก่ข้าพเจ้า.

ข้าแต่ท่านภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ข้าพเจ้าขอ
บอกท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าได้ทำบุญใด
เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้
และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

แม้ในคาถาทั้งหลาย คำที่ไม่เคยกล่าวไว้ไม่มี คือกล่าวมาแล้ว
ทั้งนั้น.
จบอรรถกถาปฐมอคาริยวิมาน

2. ทุติยอคาริยวิมาน


ว่าด้วยอคาริยวิมานที่ 2


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ได้ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[66] สวนจิตรลดาวันเป็นวนะประเสริฐสูงสุด
ของทวยเทพชั้นไตรทศ ส่องแสงสว่างไสว ฉันใด
วิมานของท่านนี้ก็มีอุปมาฉันนั้น ส่องแสงสว่างไสว
อยู่ในอากาศ ท่านบรรลุเทวฤทธิ์ มีอานุภาพมาก
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะ
บุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และ
วรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ.

เทพบุตรนั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว
ดีใจ จึงพยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ในมนุษยโลก เรา คือ ข้าพเจ้าและภรรยา
อยู่ครองเรือน เป็นดุจบ่อข้าวบ่อน้ำ มีจิตเลื่อมใส
เมื่อบริจาคข้าวน้ำได้ถวายทานอย่างไพบูลย์ โดย
เคารพ เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะอย่างนี้
และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบทุติยอคาริยวิมาน