เมนู

มนุษยโลก ข้าพเจ้าได้เห็นภิกษุปราศจากกิเลสมลทิน
ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว ก็เลื่อมใส ได้ถวายเข็มแด่ภิกษุ
นั้นด้วยมือของตน เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้า
จึงเป็นเช่นนี้ ฯ ล ฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่าง
ไปทุกทิศ.

จบทุติยสูจิวิมาน

อรรถกถาทุติยสูจิวิมาน


ทุติยสูจิวิมาน มีคาถาว่า อุจฺจมิทํ มณิถูณํ เป็นต้น. ทุติยสูจิวิมาน
เกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ พระวิหารเวฬุวัน กรุงราชคฤห์
สมัยนั้น ช่างเย็บชาวราชคฤห์คนหนึ่งมุ่งไปวิหาร ก็ไปถึงพระวิหารเวฬุวัน
ในพระเวฬุวันนั้น เขาเห็นภิกษุรูปหนึ่งกำลังเย็บจีวรด้วยเข็มที่ทำกันเองใน
พระเวฬุวัน จึงได้ถวายเข็มหลายเล่มพร้อมกล่องเข็ม. คำที่เหลือทั้งหมดมี
นัยดังกล่าวมาแล้วนั่นแล.
ท่านพระมหาโมคคัลลานะถามด้วยคาถาเหล่านี้ว่า
วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง 12 โยชน์ โดยรอบ
มีห้องรโหฐาน 700 ห้อง โอฬาร มีเสาแก้วไพฑูรย์
ลาดด้วยเครื่องลาดที่ชอบใจ สวยงาม ท่านนั่งดื่มกิน
ในวิมานนั้น มีพิณทิพย์บรรเลงไพเราะ มีเบญจ-

กามคุณ มีรสเป็นทิพย์ และเทพนารีแต่งองค์ด้วย
อาภรณ์ทองฟ้อนรำอยู่ เพราะบุญอะไร วรรณะของ
ท่านจึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผลอันจึงสำเร็จ
แก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน.

ดูก่อนเทวะผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะ
บุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และ
วรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
จึงพยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า ในชาติ
ก่อน ข้าพเจ้าเกิดเป็นมนุษย์ อยู่ในหมู่มนุษย์ใน
มนุษยโลก ข้าพเจ้าได้เห็นภิกษุปราศจากกิเลสมลทิน
ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว ก็เลื่อมใส ได้ถวายเข็มแด่ภิกษุนั้น
ด้วยมือของตน เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึง
เป็นเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า
และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ข้าพเจ้า.

ข้าแต่ภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ข้าพเจ้าขอบอก
แก่ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าได้ทำบุญใดไว้
เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้
และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

คำทั้งหมดมีนัยดังกล่าวแล้วในหนหลังนั่นแล.
จบอรรถกถาทุติยสูจิวิมาน

10. ปฐมนาควิมาน


ว่าด้วยปฐมนาควิมาน


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[60] ท่านเมื่อขึ้นช้างตัวเผือกผ่อง ไม่มีตำหนิ
มีงา มีพลัง เร็วมาก ก็ขับขี่ช้างประเสริฐที่ตกแต่ง
ไว้งาม เหาะเหินในอากาศมา ณ ที่นี้ ที่งาทั้งสอง
ของช้าง เนรมิตสระปทุมมีน้ำใส มีดอกปทุมบาน
สะพรั่ง ในดอกปทุมทั้งหลายมีคณะเทพดนตรี
บรรเลงอยู่ และมีเหล่าเทพอัปสรที่งามจับใจฟ้อนรำ
อยู่ ท่านบรรลุเทพฤทธิ์ มีอานุภาพมาก ครั้งเกิด
เป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร
ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่าน
จึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า ข้าพเจ้า
เลื่อมใส ยกดอกไม้กำแปดดอกขึ้นบูชาที่พระสถูป
ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ด้วยมือ
ตนเอง เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็น
เช่นนี้ ฯ ล ฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสว
ไปทุกทิศ.

จบปฐมนาควิมาน