เมนู

5. ทวารปาลกวิมาน


ว่าด้วยทวารปาลกวิมาน


วิมานที่ 5

ต่อจากนี้ พึงให้พิสดารเหมือนกักกฏวิมาน
พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[55] วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง 12 โยชน์ โดยรอบ
มีห้องรโหฐาน 700 ห้อง โอฬาร ฯ ล ฯ และ
วรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า พันปี
ทิพย์เป็นอายุของข้าพเจ้า มีการขับกล่อมด้วยวาจา
ให้เป็นไปด้วยใจ ผู้ทำบุญไว้จักดำรงอยู่ได้ด้วยเหตุ
เพียงเท่านี้ มีความพรั่งพร้อมด้วยกามอันเป็นทิพย์
เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ ฯ ลฯ
และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบทวารปาลกวิมาน

อรรถกถาทวารปาลกวิมาน


ทวารปาลกวิมาน มีคาถาว่า อุจฺจมิทํ มณิถูณํ เป็นต้น. ทวาร-
ปาลกวิมานเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กรุงราชคฤห์

สมัยนั้น อุบาสกคนหนึ่งในกรุงราชคฤห์ถวายนิจภัต 4 ที่แด่พระสงฆ์ เรือน
ของเขาอยู่ท้ายหมู่บ้าน โดยมากต้องปิดประตู เพราะกลัวพวกโจร ภิกษุ
ทั้งหลายไปแล้ว บางคราวไม่ได้ภัตก็พากันกลับ เพราะประตูปิด อุบาสก
กล่าวกะภริยาว่า ที่รัก เธอถวายภิกษาแด่พระคุณเจ้าทั้งหลายโดยเคารพ
หรือ ภริยากล่าวว่า พระคุณเจ้าทั้งหลายไม่ได้มาหลายวันแล้ว เพราะ
เหตุไร เห็นจะเป็นเพราะประตูปิด อุบาสกได้ฟังดังนั้น สลดใจจึงแต่ง
ตั้งบุรุษคนหนึ่งให้เป็นคนเฝ้าประตู สั่งว่า ตั้งแต่วันนี้ไป ท่านจงนั่งเฝ้า
ประตู พระคุณเจ้าทั้งหลายมาเวลาใด จงนิมนต์ท่านให้เข้าเรือนเวลานั้น
แล้วจงรู้กิจที่ต้องจัดต้องทำทั้งปวง มีรับบาตรและปูลาดอาสนะเป็นต้น
แก่พระคุณเจ้าผู้เข้าเรือนแล้ว บุรุษนั้นรับคำว่า สาธุ เมื่อการทำตามสั่ง
ได้ฟังธรรมในสำนักของภิกษุทั้งหลาย เกิดศรัทธาเชื่อกรรมและผลแห่ง
กรรม ตั้งอยู่ในสรณะและศีลทั้งหลาย ได้บำรุงภิกษุทั้งหลายโดยเคารพ.
เวลาต่อมา อุบาสกผู้ถวายนิจภัตตายไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นยามะ
ฝ่ายคนเฝ้าประตูบำรุงภิกษุทั้งหลายโดยเคารพ เกิดขึ้นในสวรรค์ชั้นดาว-
ดึงส์ เพราะทำความขวนขวายในการบริจาคของผู้อื่น และเพราะ
อนุโมทนา สมบัติทุกอย่างมีวิมานทอง 12 โยชน์ เป็นต้นของเขา พึง
ทราบตามนัยที่กล่าวแล้วในกักกฏวิมานนั่นแล. คาถาที่แสดงคำถามและ
คำตอบ มีมาอย่างนี้
วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง 12 โยชน์ โดยรอบ
มีห้องรโหฐาน 700 ห้อง โอฬาร มีเสาแก้ว
ไพฑูรย์ ลาดด้วยเครื่องลาดที่ชอบใจ สวยงาม

ท่านอยู่ ดื่ม กิน ในวิมานนั้น มีพิณทิพย์บรรเลง
ไพเราะ มีเบญจกามคุณ มีรสเป็นทิพย์ และเทพนารี
แต่งองค์ด้วยเครื่องประดับทองฟ้อนรำอยู่ เพราะบุญ
อะไร วรรณะของท่านจึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญ
อะไร ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่าง
ที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน.

ดูก่อนเทวะผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถาม
ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้
เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้
และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทวบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า พันปีทิพย์
เป็นอายุของข้าพเจ้า มีการขับกล่อมด้วยวาจา ให้เป็น
ไปด้วยใจ ผู้ทำบุญไว้จักดำรงอยู่ได้ด้วยเหตุเพียง
เท่านี้ มีความพรั่งพร้อมด้วยกามอันเป็นทิพย์ เพราะ
บุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น ฯ ล ฯ
และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ทิพฺพํ มมํ วสฺสสหสฺสมายุ ความว่า
ตนเองเกิดในเทพหมู่ใด กล่าวประมาณอายุของเทพหมู่นั้น คือเทวดา
ในชั้นดาวดึงส์ ด้วยว่าร้อยปีโดยการนับปีของมนุษย์ทั้งหลาย เป็นคืนหนึ่ง

วันหนึ่ง (ของสวรรค์) สามสิบราตรีโดยราตรีนั้น เป็นเดือนหนึ่ง
สิบสองเดือนโดยเดือนนั้น เป็นปีหนึ่ง พันปีโดยปีนั้นเป็นอายุ อายุนั้น
สามโกฏิหกล้านปี โดยการนับของมนุษย์ทั้งหลาย. บทว่า วาจาภิคีตํ
ได้แก่ ขับกล่อมด้วยวาจา คือเพียงกล่าวด้วยวาจาว่า มากันเถิด พระผู้
เป็นเจ้าทั้งหลาย อาสนะปูลาดแล้วในที่นี้ ขอท่านทั้งหลายโปรดนั่งเหนือ
อาสนะนี้เถิด เป็นต้น และด้วยวาจาเป็นการปฏิสันถารว่า ร่างกายของ
พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายไม่มีโรคหรือ ที่อยู่สบายดีหรือ เป็นต้น. บทว่า
มนสา ปวตฺติตํ ความว่า เพียงความเลื่อมใสที่ให้เป็นไปด้วยใจว่า
พระผู้เป็นเจ้าเหล่านี้เป็นผู้น่ารัก เป็นผู้ประพฤติธรรม เป็นผู้ประพฤติ
สมถะ เป็นพรหมจารี เป็นต้น แต่ไม่แสดงว่า ของบริจาคบางอย่าง
อันเป็นสมบัติของข้าพเจ้า มีอยู่. บทว่า เอตฺตาวตา ได้แก่ ด้วยเหตุ
เพียงเท่านี้ คือเพียงกล่าวและเพียงเลื่อมใสอย่างนี้. บทว่า ฐสฺสติ
ปุญฺญกมฺโม
ความว่า ชื่อว่าเป็นผู้ทำบุญไว้ จักตั้งอยู่ คือจักเป็นไป
นาน ในเทวโลก อธิบายว่า เมื่อตั้งอยู่ เป็นผู้พรั่งพร้อมด้วยกามอัน
เป็นทิพย์ คือเป็นผู้พรั่งพร้อมคือประกอบด้วยเบญจกามคุณอันเป็นทิพย์
โดยทำนองเป็นของใช้สอย สำหรับเทวดาทั้งหลายในหมู่เทพนั้นแหละ
บำรุงบำเรออินทรีย์อยู่. คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วนั้นแล.
จบอรรถกถาทวารปาลกวิมาน

6. ปฐมกรณียวิมาน


ว่าด้วยปฐมกรณียวิมาน


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[56] วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง 12 โยชน์ โดยรอบ
มีห้องรโหฐาน 700 ห้อง โอฬาร ฯ ล ฯ และ
วรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า บัณฑิตผู้รู้
แจ้งพึงกระทำบุญทั้งหลาย ในพระพุทธเจ้าผู้เสด็จ
ไปแล้วโดยชอบ ซึ่งเป็นเขตที่ถวายทานแล้วมีผลมาก
ข้าพเจ้าทำจิตให้เลื่อมใสในพระองค์ว่า พระพุทธเจ้า
เสด็จจากป่ามาสู่บ้านเพื่อประโยชน์แก่เราหนอ จึง
เข้าถึงดาวดึงส์ เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้า
จึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่
ข้าพเจ้า ฯ ล ฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่าง
ไสวไปทุกทิศ.

จบปฐมกรณียวิมาน