เมนู

3. ตติยปีฐวิมาน


ว่าด้วยวิมานตั่งทอง


[3] พระโมคคัลลานะถามว่า
ดูก่อนเทพธิดาผู้มีกายอันประดับแล้ว ทรงมาลัย
ทรงพัสตราภรณ์สวยงาม วิมานตั่งทองของท่านโอฬาร
เร็วดังใจไปได้ตามปรารถนา ท่านจึงส่องแสงประกาย
ดังสายฟ้าแลบลอดหลืบเมฆ เพราะบุญอะไร ท่านจึง
มีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผลนี้จึงสำเร็จแก่
ท่าน อนึ่ง โภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดขึ้นแก่ท่าน.

ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญ
อะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะ
ของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทวดานั้น ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว ดีใจ
ได้พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

นี้เป็นผลกรรมอันน้อยของดีฉันที่เป็นเหตุให้ดีฉัน
มีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ ดีฉันครั้งเกิดเป็นมนุษย์ใน
หมู่มนุษย์ ในมนุษยโลกในชาติก่อน ได้เห็นภิกษุผู้
ปราศจากกิเลสดุจธุลี ผู้ผ่องใส ไม่ขุ่นมัว ก็เลื่อมใส
ได้ถวายตั่งแก่ท่านด้วยมือทั้งสองของตน เพราะบุญ

นั้น ดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลนี้จึง
สำเร็จแก่ดีฉัน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่
ดีฉัน.

ข้าแต่ท่านภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดีฉันขอบอก
แก่ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ดีฉันได้ทำบุญใดไว้
เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และ
วรรณะของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบตติยปีฐวิมาน

อรรถกถาตติยปีฐวิมาน


ตติยปีฐวิมาน มีคาถาว่า ปีฐนฺเต โสวณฺณมยํ เป็นต้น. เรื่อง
ของตติยปีฐวิมานนั้น เกิดขึ้นในกรุงราชคฤห์.
ดังได้สดับมา พระเถระขีณาสพรูปหนึ่ง เที่ยวบิณฑบาตใน
กรุงราชคฤห์ ได้อาหารแล้วประสงค์จะฉันในเวลาจวนแจ จึงเข้าไปยัง
เรือนหลังหนึ่งซึ่งเปิดประตูไว้. ในเรือนหลังนั้น สตรีเจ้าของเรือน มี
ศรัทธาปสาทะ สังเกตรู้อาการของพระเถระ จึงกล่าวว่า มาเถิดเจ้าข้า
ขอท่านโปรดนั่งตรงนี้ฉันอาหารเถิดค่ะ แล้วจัดตั่งอย่างดี ปูผ้าสีเหลือง
ข้างบน ได้บริจาคโดยมิได้มุ่งอะไร และตั้งความปรารถนาว่า ขอบุญ
ของเรานี้ จงเป็นปัจจัยให้ได้ตั่งทองในอนาคตกาลเถิด. เมื่อพระเถระ
นั่งฉันอาหาร ณ ที่นั้น ล้างบาตรแล้วก็ลุกไป. นางจึงกล่าวว่า ท่านเจ้าข้า