เมนู

รักษา เพียงดังว่าท้าวสหัสนัยน์ในสวนนันทนวัน ข้า
แต่ท่านผู้เจริญ ดีฉันสำนึกถึงพระคุณเจ้าผู้อนุเคราะห์
จึงเข้ามาถวายนมัสการ และบอกกล่าวถึงกรรมที่เป็น
กุศล ขณะนั้น ดีฉันมีจิตเลื่อมใส เปี่ยมด้วยปีติ
ไม่มีอะไรเปรียบได้ ได้ถวายท่อนอ้อยแด่พระคุณเจ้า

ดังนี้. คำที่เหลือก็เช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้วนั่นเอง
แล.
จบอรรถกถาอุจฉุวิมาน

11. วันทนวิมาน


ว่าด้วยวันทนวิมาน


[49] ดูราเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม เปล่ง
รัศมีสว่างไปทุกทิศ เหมือนดาวประกายพรึก เพราะ
บุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผล
อันนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึง
เกิดแก่ท่าน.

ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถาม
ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้
เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้
และรัศมีของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทวดานั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในมนุษยโลก ดีฉันเห็น
สมณะทั้งหลายผู้มีศีล ไหว้เท้าทั้งหลายทำใจให้
เลื่อมใส อนึ่ง ดีฉันปลื้มใจ ได้กระทำอัญชลี
เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญนั้น
ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ดีฉัน และโภคะทุกอย่างที่น่ารัก
จึงเกิดแก่ดีฉัน.

ข้าแต่ท่านภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดีฉันขอบอก
พระคุณเจ้า ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ดีฉันได้กระทำบุญอัน
ใดไว้ เพราะบุญอันนั้น ดีฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรือง
อย่างนี้ และรัศมีของดีฉันจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบวันทนวิมาน

อรรถกถาวันทนวิมาน


วันทนวิมาน มีคาถาว่า อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน เป็นต้น.
วันทนวิมานนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ กรุงสาวัตถี สมัยนั้น ภิกษุมาก
รูปด้วยกัน อยู่จำพรรษาในอาวาสใกล้บ้านแห่งหนึ่ง ครั้นออกพรรษา
ปวารณาแล้ว เก็บงำเสนาสนะ ถือบาตรจีวรเดินมุ่งไปกรุงสาวัตถี เพื่อ