เมนู

อรรถกถาอุจฉุวิมาน


อุจฉุวิมาน มีคาถาว่า โอภาสยิตฺวา ปฐวึ สเทวกํ เป็นต้น.
อุจฉุวิมาน นั้น เช่นเดียวกับวิมานอ้อยในหนหลัง ทั้งโดยพระบาลีและ
โดยเหตุเกิดเรื่องนั่นเอง.
ในเรื่องนั้น แม่ผัวใช้ตั่งอย่างเดียวตีลูกสะใภ้ตาย แต่ในเรื่องนี้
ใช้ก้อนดิน ความต่างกันดังนี้เท่านั้น. แต่เพราะวัตถุ (ที่ใช้ประหาร)
ต่างกัน ทั้งสองเรื่องจึงขึ้นสู่สังคายนาแยกกัน บัณฑิตพึงทราบดังนี้.
ท่านพระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า
ท่านส่องสว่างตลอดปฐพี เหมือนดวงจันทร์
และดวงอาทิตย์รุ่งโรจน์ล้ำโลกพร้อมทั้งเทวโลกด้วย
สิริ วรรณะ ยศและเดช เหมือนดังท้าวมหาพรหม
รุ่งโรจน์ล้ำทวยเทพชั้นไตรทศพร้อมทั้งองค์อินทร์ ดู-
ราเทพธิดาผู้เลอโฉม ทัดทรงมาลัยดอกอุบล มีดอก
ไม้กรองบนศีรษะ มีผิวพรรณผุดผ่องดังทอง ประ-
ดับองค์ ทรงภูษาอันสูงสุด อาตมาขอถามท่าน
ท่านเป็นใคร มาไหว้อาตมา เมื่อก่อนท่านได้ทำกรรม
อะไรไว้ด้วยตน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในชาติก่อน ท่าน
สั่งสมทานหรือรักษาศีล เพราะบุญอะไร ท่านจึงเข้า
ถึงสุคติ มียศ [อิสริยะ, เกียรติ, บริวาร] ดูรา
เทวดา ท่านถูกอาตมาถามแล้ว ขอท่านโปรดบอกที
เถิด นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร.

ลำดับนั้น เทวดาได้กล่าวตอบด้วยคาถาเหล่านี้ว่า
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ปัจจุบันพระคุณเจ้าเข้าไป
บิณฑบาตยังบ้านตำบลนี้นี่แหละ มาจนถึงเรือนของ
พวกดีฉัน ขณะนั้น ดีฉันมีจิตใจเลื่อมใส เปี่ยม
ด้วยปีติไม่มีอะไรเปรียบได้ ได้ถวายท่อนอ้อยแด่
พระคุณเจ้า แต่ภายหลัง แม่ผัวมาซักถามดีฉันว่า
อีใจร้าย เจ้าเอาอ้อยไปไว้ที่ไหน ดีฉันตอบว่า ฉัน
ไม่ได้ทิ้งและมิได้รับประทาน ฉันเองได้ถวายแด่
ภิกษุผู้สงบ แม่ผัวผู้นั้นได้บริภาษดีฉันว่า อ้อยนี้ของ
เจ้าหรือ ที่แท้ข้าเป็นเจ้าของ ดังนี้แล้ว นางคว้า
ก้อนดินทุ่มดีฉัน ดีฉันก็ตาย จุติจากมนุษยโลกนั้น
แล้วมาเป็นเทวดา ดีฉันได้กระทำกุศลกรรมนั้นแหละ
จึงได้เสวยความสุขด้วยตน ได้ร่วมบำรุงบำเรออยู่กับ
เทวดาทั้งหลาย และบันเทิงใจอยู่ด้วยกามคุณห้า
ดีฉันได้กระทำกุศลกรรมนั่นแหละ จึงได้เสวยความ
สุขด้วยตน มีท้าวสักกะจอมเทพคุ้มครอง มีทวย
เทพชั้นไตรทศรักษา เพรียบพร้อมไปด้วยกามคุณห้า
ผลบุญเช่นนี้มิใช่น้อย การถวายอ้อยของดีฉันมีผล
มาก ดีฉันได้ร่วมบำรุงบำเรออยู่กับเทพดาทั้งหลาย
และบันเทิงใจอยู่ด้วยกามคุณห้า ผลบุญเช่นนี้มิใช่
น้อย การถวายอ้อยของดีฉันมีผลรุ่งเรืองมาก ดีฉัน
มีท้าวสักกะจอมเทพคุ้มครอง มีทวยเทพชั้นไตรทศ

รักษา เพียงดังว่าท้าวสหัสนัยน์ในสวนนันทนวัน ข้า
แต่ท่านผู้เจริญ ดีฉันสำนึกถึงพระคุณเจ้าผู้อนุเคราะห์
จึงเข้ามาถวายนมัสการ และบอกกล่าวถึงกรรมที่เป็น
กุศล ขณะนั้น ดีฉันมีจิตเลื่อมใส เปี่ยมด้วยปีติ
ไม่มีอะไรเปรียบได้ ได้ถวายท่อนอ้อยแด่พระคุณเจ้า

ดังนี้. คำที่เหลือก็เช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้วนั่นเอง
แล.
จบอรรถกถาอุจฉุวิมาน

11. วันทนวิมาน


ว่าด้วยวันทนวิมาน


[49] ดูราเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม เปล่ง
รัศมีสว่างไปทุกทิศ เหมือนดาวประกายพรึก เพราะ
บุญอะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผล
อันนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึง
เกิดแก่ท่าน.

ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถาม
ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้
เพราะบุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้
และรัศมีของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.