เมนู

บทว่า ปทีโป เจตฺถ ชลติ ความว่า ประทีปแก้วมีรัศมีรุ่งเรือง
แผ่กระจายไปดุจรัศมีพระอาทิตย์ ย่อมรุ่งเรืองยิ่งในที่นี้ คือในปราสาทนี้.
บทว่า ทุสฺสผเลหิ ความว่า ผลทั้งหลายของต้นมะม่วงเหล่านั้นเป็นผ้า
เหตุนั้น ต้นมะม่วงเหล่านั้นจึงชื่อว่าออกผลเป็นผ้า อธิบายว่า ด้วยต้น
มะม่วงเหล่านั้น คือ ที่คายผลออกมาเป็นผ้าทิพย์.
บทว่า กาเรนฺเต นิฏฺฐิเต มเห ความว่า เมื่อทำการบูชาใน
การฉลองวิหารที่สร้างสำเร็จแล้ว. บทว่า กตฺวา ทุสฺสมเย ผเล ความว่า
ทำผ้าทั้งหลายนั่นแหละให้เป็นผลของมะม่วงเหล่านั้น.
บทว่า คณุตฺตมํ ได้แก่ หมู่พระสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่ง
สูงสุดแห่งหมู่ทั้งหลาย. บทว่า นิยฺยาเทสึ ความว่า ได้มอบ คือได้ถวาย
แล้ว. คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.
จบอรรถกถาอัมพวิมาน

9. ปีตวิมาน


ว่าด้วยปีตวิมาน


ท้าวสักกเทวราชตรัสถามเทพธิดาองค์หนึ่งว่า
[47] ดูราเทพธิดาผู้เจริญ ผู้มีผ้าเหลือง มีธง
เหลือง ประดับด้วยอลังการเหลือง มีกายลูบไล้ด้วย
จันทน์เหลือง ทัดทรงดอกอุบลเหลือง มีปราสาท
เหลือง มีที่นอนที่นั่งเหลือง มีภาชนะเหลือง มีฉัตร
เหลือง มีรถเหลือง มีผ้าเหลือง มีพัดเหลือง ครั้งเกิด

เป็นมนุษย์ในชาติก่อน เจ้าได้ทำกรรมอะไรไว้ เจ้าถูก
เราถามแล้ว ขอจงบอกทีเถิด นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร.

เทพธิดานั้นตอบว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระบาทได้น้อมนำ
ดอกบวบขม ซึ่งมีรสขมไม่มีใครปรารถนา จำนวน
4 ดอก บูชาพระสถูป ข้าพระบาทมีใจผ่องใส มุ่ง
เฉพาะพระบรมสารีริกธาตุของพระศาสดา ไม่ทัน
พิจารณาหนทางที่มาแห่งแม่โค มิได้นึกไปที่แม่โคนั้น
ทันใดนั้นแม่โคได้ขวิดข้าพระบาท ผู้มีความปรารถนา
แห่งใจยังไม่ถึงพระสถูป ถ้าข้าพระบาทพึงสั่งสมบุญ
นั้นยิ่งขึ้นไซร้ ทิพยสมบัติพึงมียิ่งกว่านี้เป็นแน่ ข้า
แต่ท้าวนฆวานเทพกุญชรจอมเทพ เพราะบุญกรรม
นั้น ข้าพระบาทละกายมนุษย์แล้ว จึงมาอยู่ร่วมกับ
พระองค์.

ท้าวมฆวานเทพกุญชร ผู้เป็นอธิบดีในสวรรค์
ชั้นไตรทศ ทรงสดับคำนี้แล้ว เมื่อจะยังเทวดาชั้น
ดาวดึงส์ให้เลื่อมใส จึงได้ตรัสคำนี้กะมาตลีเทพสารภี
ว่า ดูก่อนมาตลี ท่านจงดูผลแห่งกรรมอันวิจิตรน่า
อัศจรรย์นี้ ไทยธรรมที่เทพธิดานี้กระทำแล้ว ถึงจะ
น้อย บุญก็มีผลมาก เมื่อจิตเลื่อมใสในพระตถาคต
สัมพุทธเจ้า หรือในสาวกของพระองค์ก็ตาม ทักษิณา

ไม่ชื่อว่าน้อยเลย มาเถิด มาตลี แม้ชาวเราทั้งหลาย
ก็ควรจะพากันบูชาพระบรมธาตุของพระตถาคตให้ยิ่ง
ยวดขึ้นไป เพราะการสั่งสมบุญ นำสุขมาให้ เมื่อ
พระตถาคตยังทรงพระชนม์อยู่ก็ตาม เสด็จปรินิพ-
พานแล้วก็ตาม เมื่อจิตสม่ำเสมอ ผลบุญก็ย่อม
สม่ำเสมอ เพราะเหตุที่ตั้งจิตไว้ชอบ สัตว์ทั้งหลาย
ย่อมไปสู่สุคติ ทายกทั้งหลายกระทำสักการะใน
พระตถาคตเหล่าใดแล้ว ย่อมไปสู่สวรรค์ พระตถา-
คตเหล่านั้น ย่อมอุบัติขึ้นเพื่อประโยชน์แก่ชนเป็น
อันมากหนอ.

จบปีตวิมาน

อรรถกถาปีตวิมาน


ปีตวิมาน มีคาถาว่า ปีตวตฺเถ ปีตธเช เป็นต้น. ปีตวิมานนั้น
เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระเจ้าอชาตศัตรู
นำพระบรมสารีริกธาตุที่พระองค์ได้รับส่วนแบ่ง มาสร้างพระสถูปและ
ทำการฉลอง อุบาสิกาชาวราชคฤห์คนหนึ่งปฏิบัติกิจของร่างกายแต่เช้าตรู่
คิดจักบูชาพระศาสดาถือดอกบวบขม 4 ดอกตามที่ได้มา มีศรัทธาเกิด
ฉันทะอุตสาหะขึ้นในใจอย่างฉับพลัน มิได้คำนึงถึงอันตราย ในหนทาง