เมนู

รถเทียมแม่ม้าอัสดรร้อยคัน สาวน้อยประดับตุ้มหู
แก้วมณีแสนนาง ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ 16 แห่งการ
ถวายน้ำข้าวครั้งหนึ่ง ช้างตัวประเสริฐตระกูลเหมวตะ
มีงาดุจงอนไถ มีสายรัดทองคำ มีที่อยู่อาศัยเป็น
ทอง ( ถ้ำทอง ) ร้อยเชือก ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ 16
แห่งการถวายน้ำข้าวครั้งหนึ่ง ถึงแม้พระเจ้าจักร-
พรรดิ ครองความเป็นใหญ่แห่งทวีปทั้ง 4 ก็ยังไม่
เท่าเสี้ยวที่ 16 แห่งการถวายน้ำข้าวครั้งหนึ่ง.

จบกัญชิกทายิกาวิมาน

อรรถกถากัญชิกทายิกาวิมาน


กัญชิกทายิกาวิมาน มีคาถาว่า อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน เป็นต้น.
กัญชิกทายิกาวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประชวรโรคลมในพระนาภี จึงตรัส
เรียกท่านพระอานนท์สั่งว่า อานนท์ เธอจงไปเที่ยวบิณฑบาต นำ
น้ำข้าวมาเพื่อทำยาแก่เรา. ท่านพระอานนท์ทูลตอบรับพระพุทธดำรัสว่า
พระพุทธเจ้าข้า. ถือบาตรที่ท้าวมหาราชถวาย ยืนอยู่ที่ประตูนิเวศน์
ของหมอผู้เป็นอุปัฏฐากของตน ภริยาของหมอเห็นท่าน ก็ออกไปต้อน-
รับไหว้แล้วรับบาตรพลางถามพระเถระว่า ต้องการยาอะไร เจ้าข้า.
เล่ากันว่า ภริยาของหมอนั้นเป็นคนมีปัญญา สังเกตรู้ว่า เมื่อจะประกอบ
ยา พระเถระจึงมาที่นี้ มิใช่มาเพื่อภิกษา. และเมื่อพระเถระบอกว่า

ต้องการน้ำข้าว นางคิดว่า นี้มิใช่ยาสำหรับพระผู้เป็นเจ้าของเรา บาตร
นี้ก็เป็นบาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยแท้ เอาละ เราจะจัดน้ำข้าวอัน
เหมาะแก่พระโลกนาถ นางดีใจเกิดความนับถือมาก จึงปรุงยาคู ข้าวต้ม
ด้วยพุทราและถั่วพูใส่เต็มบาตร และจัดโภชนะอย่างอื่นเป็นบริวารของ
ยาคูนั้นส่งไปถวาย. พอพระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยยาคูนั้นเท่านั้น อาพาธ
นั้นก็สงบ ต่อมา นางตายไปบังเกิดในภพดาวดึงส์ เสวยทิพยสมบัติยิ่งใหญ่
บันเทิงอยู่. ท่านพระมหาโมคคัลลานะถามเทพธิดานั้นด้วยคาถาเหล่านี้ว่า
ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม เปล่งรัศมี
สว่างไปทุกทิศ ดุจดาวประกายพรึก เพราะบุญอะไร
ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผลนี้จึงสำเร็จ
แก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดขึ้นแก่ท่าน.

เป็นมนุษย์ท่านทำบุญอะไร เพราะบุญอะไร
ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีจึงสว่างไสว
ไปทุกทิศ
.
เทวดานั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ เทพธิดา
แม้นั้นพยากรณ์ว่า ดีฉันมีใจเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า
ผู้ซื่อตรงได้ถวายน้ำข้าวที่ปรุงด้วยพุทรา อบด้วยน้ำมัน
และผสมด้วย ดีปลี กระเทียม และรากผักชี แด่
พระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ณ อันธก-
วินทนคร. นารีผู้งามทั่วสรรพางค์ สามีมองไม่จืด

ครองความเป็นมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ ก็ยังไม่
เท่าเสี้ยวที่ 16 แห่งการถวายน้ำข้าวนั้น. ทองคำ
ร้อยแห่ง ม้าร้อยตัว รถเทียมด้วยแม่ม้าอัสดรร้อยคัน
สาวน้อยประดับตุ้มหูแก้วมณีแสนนาง ก็ยังไม่เท่า
เสี้ยวที่ 16 แห่งการถวายนำข้าวครั้งหนึ่ง. ช้างตัว
ประเสริฐตระกูลเหมวตะ มีงาดุจงอนไถ มีสายรัด
ทองคำ มีที่อยู่อาศัยเป็นทอง [ ถ้ำทอง ] ร้อยเชือก
ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ 16 แห่งการถวายน้ำข้าวครั้งหนึ่ง.
ถึงแม้พระเจ้าจักรพรรดิ ครองความเป็นใหญ่แห่งทวีป
ทั้ง 4 ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ 16 แห่งการถวายน้ำข้าว
ครั้งหนึ่ง.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อทาสึ โกลสมฺปากํ กญฺชิกํ เตลธูปิตํ
เทพธิดาแสดงว่า ดีฉันเอาน้ำพุทราและมะซางเติมน้ำสี่ส่วน เคี่ยวยาคู
ข้าวต้มเหลือส่วนที่สี่ ปรุงด้วยของเผ็ดร้อนทั้งหลายมีของเผ็ดร้อน 3 อย่าง
ผักชีมหาหิงคุ์ยี่หร่าและกระเทียมเป็นต้น อบอย่างดีให้ข้าวยาคูนั้นจับกลิ่น
พริกไทย แล้วเกลี่ยลงในบาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ถวายเฉพาะ
พระศาสดาด้วยจิตเลื่อมใส. ดีฉันวางไว้ในมือของพระเถระ. เพราะเหตุ
นั้น เทพธิดาจึงกล่าวว่า
ดีฉันมีใจเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้ซื่อตรงได้
ถวายน้ำข้าวที่ผสมด้วยดีปลี กระเทียมและพริกไทย
ดังนี้.

คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วทั้งนั้น.
เมื่อเทวดานั้นชี้แจงถึงกรรมสุจริตที่ตนสั่งสมไว้แล้ว ท่านพระมหา
โมคคัลลานะก็แสดงธรรมแก่เธอพร้อมทั้งบริวารอย่างนี้แล้ว กลับมายัง
มนุษยโลก กราบทูลเรื่องนั้นถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงทำเนื้อความนั้นให้เป็นอัตถุปปัตติเหตุเกิดขึ้นแห่งเรื่องทรงแสดงธรรม
ในท่ามกลางบริษัท 4. เทศนานั้นได้เป็นประโยชน์แก่มหาชน ดังนี้แล.
จบอรรถกถากัญชิกทายิกาวิมาน

6. วิหารวิมาน


ว่าด้วยวิหารวิมาน


ท่านพระอนุรุทธะถามเทพธิดาองค์หนึ่งว่า
[44] ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม เปล่งรัศมี
สว่างไปทุกทิศ เหมือนดาวประกายพรึก เมื่อท่าน
ฟ้อนรำอยู่ เสียงอันเป็นทิพย์ น่าฟัง น่ารื่นรมย์ใจ
ก็เปล่งออกจากอวัยวะน้อยใหญ่ทุกส่วน กลิ่นทิพย์ที่
หอมหวนยวนใจ ก็ฟุ้งออกจากอวัยวะน้อยใหญ่ทุก
ส่วน เมื่อท่านเคลื่อนไหวกาย เครื่องประดับช้องผม
ก็เปล่งเสียงกังวานฟังไพเราะ ดุจดนตรีเครื่อง 5
มาลัยประดับศีรษะที่ต้องลม ถูกลมพัดไหว ก็ส่งเสียง
ดังกังวานไพเราะดุจดนตรีเครื่อง 5 แม้พวงมาลัย
บนศีรษะของท่าน ก็มีกลิ่นขโมยหวนยวนใจ หอมฟุ้ง