เมนู

อรรถกถาอโลมวิมาน


อโลมวิมาน มีคาถาว่า อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน เป็นต้น. อโลมวิมาน
นั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กรุง-
พาราณสี เวลาเช้าทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวรเสด็จเข้าไปบิณฑ-
บาตยังกรุงพาราณสี. ในกรุงพาราณสีนั้น มีหญิงเข็ญใจคนหนึ่งชื่อ
อโลมา เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วเลื่อมใส ไม่เห็นสิ่งอื่นที่ควรถวาย
นางคิดว่า ของที่ถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าแม้เช่นนี้ ก็จักมีผลมากแก่
เรา จึงน้อมถวายขนมแห้งไม่เค็มมีผิวราน. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับ
ขนมนั้น. นางได้ยึดทานนั้นเป็นอารมณ์ เสวยโสมนัสความดีใจ กาล
ต่อมา นางตายบังเกิดในภพดาวดึงส์. ท่านพระมหาโมคคัลลานะถามนางว่า
ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงาม เปล่งรัศมี
สว่างไปทุกทิศ เหมือนดาวประกายพรึก เพราะบุญ
อะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผลอัน
นี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารัก จึง
เกิดแก่ท่าน.

ดูก่อนเทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถาม
ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไร เพราะ
บุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมี
จึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพธิดาแม้นั้นได้ตอบปัญหาแก่พระเถระแล้ว. เพื่อจะแสดงข้อนั้น
พระสังคีติกาจารย์จึงกล่าวว่า

เทวดานั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ดีฉันอยู่ในกรุงพาราณสี มีจิตเลื่อมใส ได้
ถวายขนมแห้ง แด่พระพุทธเจ้าผู้เผ่าพันธุ์พระ-
อาทิตย์ด้วยมือของตน ขอพระคุณเจ้าโปรดดูผลของ
ชิ้นขนมแห้ง อันหารสเค็มมิได้ ครั้นเห็นว่าขนม
แห้งไม่เค็มแล้วได้ความสุข ใครเล่าจักไม่ทำบุญ.

เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะ
บุญนั้น ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ดีฉัน และโภคะทุกอย่าง
ที่น่ารักจึงเกิดแก่ดีฉัน.

ข้าแต่ท่านภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดีฉันขอบอก
ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ดีฉันได้กระทำบุญใดไว้
เพราะบุญนั้น ดีฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และ
รัศมีจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อโลมํ สุขิตํ ทิสฺวา ความว่า เห็น
ว่าถวายขนมแห้งแม้ชื่อ อโลมะ แล้วยังได้สุขโดยความสุขอันเป็นทิพย์
อย่างนี้. บทว่า โก ปุญฺญํ น กริสฺสติ ความว่า ใครเล่าเมื่อหวัง
ประโยชน์เกื้อกูลและความสุขสำหรับตน จักไม่กระทำบุญ. คำที่เหลือมี
นัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.
จบอรรถกถาอโลมวิมาน

5. กัญชิกทายิกาวิมาน


ว่าด้วยกัญชิกทายิกาวิมาน


พระมหาโมคคัลลานเถระถามเทพธิดาองค์หนึ่งว่า
[43] ดูก่อนเทพธิดา ท่านมีวรรณะงามเปล่ง
รัศมีสว่างไปทุกทิศ ดุจดาวประกายพรึก เพราะบุญ
อะไร ท่านจึงมีวรรณะเช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผล
อันนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึง
เกิดแก่ท่าน.

ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านทำบุญอะไร เพราะบุญอะไร
ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และรัศมีจึงสว่างไสว
ไปทุกทิศ.

เทพธิดานั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาแห่งกรรม ที่มีผลอย่างนี้ว่า

เมื่อชาติก่อน ดีฉันเกิดเป็นมนุษย์ ดีฉันมีใจ
เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้ซื่อตรง ได้ถวายน้ำข้าวที่
ปรุงด้วยพุทรา อบด้วยน้ำมัน และผสมด้วยดีปลี
กระเทียม และรากผักชี แด่พระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่า-
พันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ณ อันธกวินทนคร นารีผู้งาม
ทั่วสรรพางค์ สามีมองไม่จืด ครองความเป็นมเหสี
ของพระเจ้าจักรพรรดิ ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ 16 แห่ง
การถวายน้ำข้าวนั้น ทองคำร้อยแท่ง ม้าร้อยตัว