เมนู

3. นาควิมาน


ว่าด้วยนาควิมาน


พระวังคีสเถระถามเทพธิดาองค์หนึ่งว่า
[41] ท่านประดับองค์แล้ว ขึ้นนั่งคชสารตัวประ-
เสริฐ ซึ้งมีขนาดใหญ่ งามไปด้วยแก้วและทองวิจิตร
ด้วยข่ายทอง ผูกสายรัดประคนเรียบร้อย เลื่อนลอย
ในอากาศเวหามาในที่นี้ ที่งาทั้งสองของคชสารมี
สระโบกขรณีที่เนรมิตไว้ มีน้ำใสสะอาดดาดาษไป
ด้วยดอกปทุมบานสะพรั่ง ดอกปทุมทั้งหลาย มี
หมู่เทพอัปสรนักดนตรีพากันมาขับร้องประสานเสียง
และฟ้อนรำ ชวนให้เกิดความประทับ ดูก่อน
เทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก ท่านบรรลุเทวฤทธิ์แล้ว
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะ
บุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และ
วรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทั่วทิศ.

เทพธิดานั้นตอบว่า
ดีฉันได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าที่กรุงพาราณสี ได้
ถวายผ้าคู่แด่พระพุทธเจ้า ถวายบังคมพระยุคลบาท
แล้วนั่งอยู่ที่พื้นดิน ดีฉันปลื้มใจได้กระทำอัญชลี
อนึ่ง พระพุทธเจ้ามีพระฉวีวรรณผุดผ่องดุจทองคำ

ธรรมชาติ ได้ทรงแสดงทุกขสัจและสมุทัยสัจ และ
ได้ทรงแสดงทุกขนิโรธ อันปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้
และมรรคสัจแก่ดีฉัน โดยประการที่ดีฉันจักรู้แจ้งได้
ดีฉันเป็นคนมีอายุน้อย ทำกาละ (ตาย) จุติจาก
ชาตินั้นแล้ว ไปเกิดในชั้นไตรทศ ( ดาวดึงส์) เป็น
ผู้เรืองยศ เป็นปชาบดีองค์หนึ่งของท้าวสักกะ นามว่า
ยสุตตรา ปรากฏไปทุกทิศ.

จบนาควิมาน

อรรถกถานาควิมาน


นาควิมาน มีคาถาว่า อลงฺกตา มณิกญฺจนาจิตํ เป็นต้น.
นาควิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน กรุง-
พาราณสี.
สมัยนั้น อุบาสิกาชาวพาราณสีคนหนึ่งมีศรัทธาปสาทะ สมบูรณ์
ด้วยศีลและจรรยา นางให้ทอผ้าคู่ อุทิศพระผู้มีพระภาคเจ้า ให้ซัก
ย้อมดีแล้ว เข้าเฝ้าวางผ้าไว้แทบพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้ว
กราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรด
อนุเคราะห์ทรงรับผ้าคู่นี้ ซึ่งจะพึงเป็นประโยชน์ เป็นสุขตลอดกาลนาน
แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับผ้าคู่นั้น ทรงเห็น
อุปนิสัยสมบัติของนาง จึงทรงแสดงธรรม. จบเทศนา นางดำรงอยู่ใน
โสดาปัตติผล ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำประทักษิณแล้วกลับบ้าน.