เมนู

พร้อมทั้งรากเหง้ามีความไม่รู้ความสงสัย และความผันแปรเป็นต้นเสียได้
ทั้งไม่ถูกติเตียน ย่อมเข้าถึงฐานะ คือ สวรรค์. บทที่เหลือมีนัยดังกล่าว
แล้วนั่นแล.
ก็ท้าวสักกะจอมเทพทรงบอกความเป็นไปทั้งหมดนี้ แก่ท่านมหา
โมคคัลลานะด้วยคาถามีอาทิว่า ททฺทลฺลมานา วณฺเณน ดังนี้. ท่าน
มหาโมคัลลานะจึงกราบทูลแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรง
ทำข้อนั้นให้เป็นเหตุเกิดเรื่องราวแล้ว ทรงแสดงธรรมแก่บริษัทที่ประชุม
พร้อมเพรียงกัน. เทศนานั้นได้มีประโยชน์แก่มหาชนด้วยประการฉะนี้.
จบอรรถกถาทัททัลลวิมาน

7. เสสวดีวิมาน


ว่าด้วยเสสวดีวิมาน


เมื่อพระวังคีสเถระ

จะได้ถามถึงบุรพกรรมของนางเทพธิดานั้น จึง
สรรเสริญวิมานของเธอเสียก่อนเป็นปฐม ด้วยคาถา 7 คาถา ความว่า
[35] ดูก่อนแม่เทพธิดา อาตมาได้เห็นวิมานของท่าน
นี้ อันมุงและบังด้วยข่ายแก้วผลึก ข่ายเงินและข่าย
ทองคำ มีพื้นที่เต็มไปด้วยต้นไม้มีผลวิจิตรนานา
พรรณเป็นระเบียบเรียบร้อย น่ารื่นรมย์ เป็นวิมานซึ่ง
เกิดสำหรับผู้มีบุญ มีซุ้มประตูแล้วด้วยแก้ว 7 ประการ
ที่ลานวิมานเรี่ยรายไปด้วยทรายทองงดงามมาก มี

รัศมีส่องสว่างไปทั่วทุกทิศ เหมือนพระอาทิตย์ มีรัศมี
ตั้งพัน ซึ่งกำจัดความมืดมนได้เป็นปกติในยาม
สรทกาล หรือเหมือนกับแสงเปลวเพลิงซึ่งกำลังลุก
อยู่บนยอดเขาในเวลากลางคืน หรือคล้ายกับการลืม
ตาขึ้นขณะที่ฟ้าแลบในอากาศฉะนั้น วิมานนี้เป็น
วิมานลอยอยู่ในอากาศ ก้องกังวานไปด้วยเสียงดนตรี
คือ พิณเครื่องใหญ่ กลองและกังสดาล ประโคมอยู่
มิได้ขาดระยะ สุทัสนเทพนคร อันเป็นเมืองพระ-
อินทร์ ซึ่งมั่งคั่งไปด้วยสมบัติทิพย์ฉันใด วิมานของ
ท่านนี้ก็ฉันนั้น วิมานของท่านนี้ฟุ้งไปด้วยกลิ่นหอม
อย่างยอดเยี่ยมหลายอย่างต่าง ๆ กัน คือ กลิ่นดอก
ปทุม ดอกโกมุท ดอกอุบล ดอกจงกลนี ดอกคัดเค้า
ดอกพุดซ้อน ดอกกุหลาบ ดอกอังกาบ ดอกรัง ดอก
อโศก แย้มกลีบส่งกลิ่นหอมระรื่น ทั้งตั้งอยู่ริมฝั่ง
สระโบกขรณี น่ารื่นรมย์ เรียงรายไปด้วยไม้หูกวาง
ขนุนสำมะลอ และต้นไม้กลิ่นหอม มีทั้งไม้เลื้อยชู
ดอกออกช่อหอมระรื่น ห้อยย้อยเกาะก่ายลงมาจาก
ปลายใบต้นตาล และมะพร้าว คล้ายกับข่ายแก้วมณี
และแก้วประพาฬ จัดเป็นของทิพย์ มีขึ้นสำหรับท่าน
ผู้เรืองยศ อนึ่ง ต้นไม้และดอกไม้ผลทั้งหลายซึ่งเป็น
ต้นไม้เกิดอยู่ในน้ำและบนบก ทั้งเป็นรุกขชาติมีอยู่
ในเมืองมนุษย์ และไม่มีในเมืองมนุษย์ ตลอดจน

พรรณไม้ทิพย์ประจำเมืองสวรรค์ ก็ได้มีพร้อมอยู่ใกล้
วิมานของท่าน ท่านได้สมบัติทิพย์ทั้งนี้เป็นผลแห่ง
การประพฤติทางกาย วาจา ใจ และการฝึกฝนอินทรีย์
อย่างไร เพราะผลกรรมอะไร ท่านจึงมาเกิดในวิมาน
นี้.

ดูก่อนนางเทพธิดา ผู้มีขนตางอนมาก ขอท่าน
จงตอบถึงผลกรรมเป็นเหตุได้วิมานที่ท่านได้แล้วนี้ ไป
ตามคำที่อาตมาถามท่านแล้วตามลำดับด้วยเถิด.

ลำดับนั้น นางเทพธิดาตอบว่า
ก็วิมานที่ดีฉันได้แล้วนี้ มีฝูงหงส์ นกกระเรียน
ไก่ฟ้า นกกด และนกเขาไฟ เที่ยวร่อนร้องไปมา
ทั้งเต็มไปด้วยหมู่นกนางนวล นกกระทุง และพญา
หงส์ทอง ซึ่งเป็นนกทิพย์เที่ยวบินไปมาอยู่ตลอดลำน้ำ
และอึงคะนึงไปด้วยฝูงนกประเภทอื่น ๆ อีก คือ นก-
เป็ดน้ำ นกค้อนหอย นกดุเหว่าลาย นกดุเหว่าขาว
มีทั้งต้นไม้ดอก ไม้ต้น ไม้ผล อันเกิดเองหลายอย่าง
ต่างพรรณ คือ ต้นแคฝอย ต้นหว้า ต้นอโศก พระ-
คุณเจ้าขา ดีฉันได้วิมานนี้ด้วยเหตุผลอันใด ดีฉัน
จะเล่าเหตุผลอันนั้นถวายพระคุณเจ้า นิมนต์ฟังเถิด
คือ มีหมู่บ้านหมู่หนึ่งชื่อนาฬกคาม ตั้งอยู่ทางทิศ
ตะวันออกของพระนครราชคฤห์ ดีฉันเป็นบุตรสะใภ้
ประจำตระกูลของบ้านนั้นตั้งอยู่ภายในบุรี ชุมชน

ในหมู่บ้านนั้นเรียกดิฉันว่า เสสวดี ดีฉันมีใจชื่นบาน
ได้ก่อสร้างกุศลกรรมไว้ในชาตินั้น คือ ได้บูชาพระ-
ธาตุของพระธรรมเสนาบดี นามว่า อุปติสสะ ซึ่ง
เป็นที่บูชาของทวยเทพและมนุษย์ทั้งหลายผู้มากไป
ด้วยคุณความดีมีศีลเป็นต้นหาประมาณมิได้ ซึ่ง
นิพพานไปแล้วด้วยเครื่องสักการะหลายอย่าง ล้วน
แต่รัตนะและดอกคำ ก็แหละครั้นบูชาพระธาตุของ
พระผู้แสวงหาซึ่งคุณอย่างยอดยิ่ง ผู้ถึงอนุปาทิเสส-
นิพพานธาตุแล้ว ซึ่งในที่สุดยังเหลืออยู่แด่พระธาตุ
เท่านั้น ครั้นดิฉันละกายมนุษย์นั้นแล้ว จึงได้มาเถิด
ในดาวดึงส์ชั้นไตรทศ อยู่ประจำวิมานในเทวโลก.

จบเสสวดีวิมาน

อรรถกถาเสสวดีวิมาน


เสสวดีวิมาน มีคาถาว่า ผลิกรชตเหมชาลจฺฉนฺนํ ดังนี้เป็นต้น.
เสสวดีวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันพาวิหาร ใกล้กรุง
สาวัตถี. สมัยนั้น ได้มีลูกสะใภ้ของตระกูลชื่อ เสสวดี ในตระกูลคหบดี
มหาศาลตระกูลหนึ่ง ณ นาลกคาม ในแคว้นมคธ.
ได้ยินว่า นางเสสวดีนั้น เมื่อเขากำลังสร้างสถูปทองประมาณ