เมนู

เป็นทิพย์. บทว่า สุคติมฺหิ อาคตา ได้แก่ มา คือเข้าถึงสวรรค์ หรือ
มาในสุคติสวรรค์ คือทิพยสมบัติ. ปาฐะว่า สุคตึ หิ อาคตา มาสู่
สวรรค์ดังนี้บ้าง. บทว่า หิ ในบทนั้นเป็นเพียงนิบาต หรือมีความ
เป็นเหตุ. โยชนาแก้ว่า เพราะมาสู่สุคติ ฉะนั้น จึงเป็นผู้มีส่วนแห่งภพ
วิเศษ.
บทว่า วิมานปาสาทวเร ได้แก่ ในปราสาทอันสูงสุดในวิมาน
ทั้งหลาย หรือในปราสาทอันเลิศกล่าวคือวิมาน หรือดีฉัน อันหมู่นาง
อัปสรแวดล้อมแล้วในวิมาน อันเป็นปราสาทประเสริฐใหญ่หาประมาณ
มิได้ คำนวณไม่ได้ มีรัศมีซ่านออกจากกายตนเองบันเทิงอยู่. อีกอย่าง
หนึ่ง ควรนำบทว่า อมฺหิ มาประกอบด้วย. บทว่า ทีฆายุกึ โยชนาแก้
ว่า หมู่เทพพากันยินดีกับข้าพเจ้าผู้มีอายุยืน เพราะมีอายุยืนกว่าพวกเทพ
ชั้นต่ำ และเพราะมีอายุไม่น้อยกว่าพวกเทพที่เกิดในวิมานนั้น ผู้มาคือ
เข้าถึงเทพวิมานตามที่กล่าวแล้ว. บทที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.
จบอรรถกถาปัลลังกวิมาน

4. ลตาวิมาน


ว่าด้วยลตาวิมาน


[32] นางเทพนารี 5 องค์ มีความรุ่งเรือง มีปัญญา
งดงามด้วยคุณธรรม เป็นธิดาของท้าวเวสสวัณมหา-
ราช คือ นางลดาเทพธิดา 1 นางสัชชาเทพธิดา 1
นางปวราเทพธิดา 1 นางอัจฉิมุตีเทพธิดา 1 นาง

สุดาเทพธิดา 1 ต่างเป็นนางบำเรอของท้าวสักกเทว-
ราชผู้ประเสริฐ มีสิริ ได้พากันไปยังแม่น้ำอันไหล
มาจากสระอโนดาต มีน้ำเยือกเย็น มีดอกอุบลน่า
รื่นรมย์ ในป่าหิมพานต์ เพื่อสรงสนาน ครั้นสรง
สนาน ฟ้อนรำขับร้อง รื่นเริงสำราญใจในแม่น้ำแล้ว
จึงนางสุดาเทพธิดาได้ถามนางลดาเทพธิดาผู้พี่องค์-
ใหญ่ว่า เจ้าพี่จ๋า ผู้มีดวงตาเหลืองปนแดง มีร่าง
ประดับด้วยพวงมาลัยอุบล มีพวงมาลัยประดับเศียร
ผิวพรรณก็งดงามเปล่งปลั่งดังทองคำ มีอวัยวะทุก
ส่วนงดงามผ่องใส เหมือนท้องฟ้าที่ปราศจากเมฆ
หมอก มีอายุยืน ดีฉันขอถามเจ้าพี่ เพราะทำบุญ
อะไรไว้ เจ้าพี่จึงได้มียศมาก ทั้งเป็นที่รักและ
โปรดปรานของพระภัสดา มีรูปงานสะสวยยิ่งนัก
ทั้งฉลาดในการฟ้อนรำขับร้อง และบรรเลงเป็นเยี่ยม
จนพวกเทพบุตรและเทพธิดาไต่ถามถึงเสมอ ๆ ขอ
โปรดได้บอกแก่หม่อมฉันด้วยเถิด.

นางเทพธิดาจึงตอบว่า
ครั้งพี่ยังเป็นมนุษย์อยู่ในมนุษย์โลก เป็นบุตร
สะใภ้ในตระกูลมั่งคั่งตระกูลหนึ่ง พี่มิได้เป็นคนมัก
โกรธ เป็นผู้ประพฤติอยู่ใต้บังคับบัญชาของสามี ไม่
ประมาทในวันอุโบสถ เมื่อพี่ยังเป็นสาวอยู่ เป็นผู้
ภักดีด้วยการไม่ประพฤตินอกใจสามีหนุ่ม พี่เป็นที่

โปรดปรานของสามีเป็นอย่างยิ่ง ก็เพราะพี่มีน้ำใจ
ผ่องใส ได้ทำตัวให้เป็นที่โปรดปรานของสามีพร้อม
ทั้งญาติชั้นผู้ใหญ่ และบิดามารดาของสามี ตลอดจน
คนใช้ชายหญิง พี่จึงได้มีบริวารยศอันบุญกรรมจัดมา
ให้ถึงอย่างนี้ เพราะกุศลกรรมนั้น พี่จึงได้เป็นผู้พิเศษ
กว่านางฟ้าพวกอื่น ในที่ 4 สถาน คือ อายุ วรรณะ
สุขะ พละ ได้เสวยความยินดีมิใช่น้อย.

เมื่อนางสุดาเทพธิดาได้ฟังดังนี้แล้ว จึงได้พูดกับพี่สาวทั้งสามว่า
ข้าแต่เจ้าพี่ทั้งสาม เจ้าพี่ลดาได้แถลงถ้อยคำ
น่าฟังมากมิใช่หรือจ้ะ หม่อมฉันทูลถามถึงเรื่องที่
พวกเราชอบสงสัยกันมาก ก็กล่าวแก้ได้อย่างไม่ผิด
พลาด เจ้าพี่ลดาควรเป็นตัวอย่างอันดีเยี่ยมสำหรับ
เราทั้งสี่และนารีทั้งหลาย มาเราทั้งปวงพึงประพฤติ
ธรรมในสามีทั้งหลาย เราทั้งปวงพึงประพฤติในสามี
เหมือนอย่างสตรีที่ดี ประพฤติยำเกรงสามี ฉะนั้น
ครั้นเราทั้งหลายปฏิบัติธรรม คือ การอนุเคราะห์
ต่อสามีด้วยสภาพทั้ง 5 อย่างนี้ ก็จะได้สมบัติอย่าง
ที่เจ้าพี่ลดาพูดถึงอยู่ประเดี๋ยวนี้ พญาราชสีห์ตัว
สัญจรไปตามราวไพรใกล้เชิงเขา อาศัยอยู่บนบรรพ
เขาหลวง แล้วก็เที่ยวตะครุบจับสัตว์ 4 เท้าใหญ่
น้อยทุก ๆ ชนิดกัดกินเป็นอาหารได้ ฉันใด สตรี

ที่มีศรัทธาเป็นอริยสาวิกาในศาสนานี้ ก็ฉันนั้น เมื่อ
ยังอาศัยภัสดาอยู่ ควรประพฤติยำเกรงสามี ฆ่าความ
โกรธเสีย กำจัดความตระหนี่เสียได้แล้ว เขาผู้
ประพฤติธรรมโดยชอบ จึงรื่นเริงบันเทิงใจอยู่บน
สวรรค์.

จบลตาวิมาน

อรรถกถาลตาวิมาน


ลตาวิมาน มีคาถาว่า ลตา จ สชฺชา ปวรา จ เทวตา ดังนี้
เป็นต้น. ลตาวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร อารามของ
อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้กรุงสาวัตถี. ก็สมัยนั้น ธิดาของอุบาสกคนหนึ่ง
ชาวเมืองสาวัตถี ชื่อว่า ลดา เป็นบัณฑิตฉลาด มีปัญญา ไปตระกูลสามี
ประพฤติตนเป็นที่ชอบใจของสามีและแม่ผัวพ่อผัว พูดจาน่ารัก ฉลาดใน
การสงเคราะห์บริวารชน สามารถจัดทรัพย์สมบัติในเรือนได้เรียบร้อย
ไม่มักโกรธ ถึงพร้อมด้วยศีลและมรรยาท ยินดีในการแจกจ่ายทาน ถือ
ศีล 5 ไม่ขาด ได้เป็นหญิงไม่ประมาทในการรักษาอุโบสถ.
ครั้นต่อมา นางถึงแก่กรรม เกิดเป็นธิดาของท้าวเวสสวัณมหาราช
มีชื่อว่านางลดาเทพธิดาเหมือนกัน. นางลดาเทพธิดาได้มีน้องสาวอื่นอีก
4 นาง คือ นางสัชชาเทพธิดา นางปวราเทพธิดา นางอัจฉิมุตีเทพธิดา
และนางสุดาเทพธิดา ท้าวสักกเทวราชนำนางทั้ง 5 นั้นมาตั้งไว้ในฐานะ