เมนู

พระนิพพานด้วย . บทว่า ปรมหิตานุกมฺปกํ ได้แก่ ทรงอนุเคราะห์สัตว์
ทั้งปวง ด้วยประโยชน์เกื้อกูล อย่างยิ่ง อย่างสูงสุด.
สิริมาเทพธิดา ครั้นประกาศความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย โดยมุข
คือประกาศลัทธิของตนอย่างนี้แล้ว ก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าและ
ภิกษุสงฆ์ ทำประทักษิณเวียนขวาแล้ว ก็กลับเทวโลกแห่งเดิม พระผู้มี
พระภาคเจ้า ทรงทำเรื่องที่มาถึงแล้วนั้นนั่นแหละ ให้เป็นอัตถุปปัตติเหตุ
เกิดเรื่องแล้วทรงแสดงธรรม. จบเทศนา ภิกษุผู้กระสันก็บรรลุพระอรหัต
พระธรรมเทศนานั้น เกิดประโยชน์แม้แก่บริษัทที่ประชุมกันแล.
จบอรรถกถาสิริมาวิมาน

17. เปสการิยวิมาน


ว่าด้วยเปสการิยวิมาน


[17] ท้าวสักกเทวราชตรัสถามว่า
วิมานนี้งดงามส่องแสงรุ่งเรืองประจำ มีเสา
แก้วไพฑูรย์ สดใสไร้มลทิน ต้นไม้ทองคำปกคลุม
โดยรอบ เป็นสถานที่เกิดด้วยผลกรรมของเรา เทพ-
อัปสรที่มีอยู่ก่อนตั้งแสนเหล่านั้น ก็เกิดในวิมานนั้น
เพราะกรรมของตนเอง.

เจ้าเป็นผู้เพรียบพร้อมด้วยบริวารยศก็เข้าอยู่
ส่งรัศมีข่มเทวดาที่เกิดก่อน พระจันทร์ราชาแห่ง

ดาวนักษัตรส่งข่มหมู่ดาวฉันใด เจ้าเมื่อส่งแสงก็
รุ่งโรจน์ข่มเทพอัปสรทั้งหมด โดยบริวารยศฉันนั้น
เหมือนกัน ดูก่อนเทพธิดาผู้มีพักตร์ชวนพิศ เจ้ามา
จากภพไหนจึงได้มาถึงภพของเรานี้ เราทั้งหมดไม่อิ่ม
ด้วยการพบเจ้าเหมือนเทพเจ้าชาวไตรทศรวมหมดทั้ง
พระอินทร์ ไม่อิ่มด้วยการพบองค์พระพรหมฉะนั้น.

เทพธิดา อันท้าวสักกเทวราชตรัสถามอย่างนั้นแล้ว เมื่อจะประกาศ
เนื้อความนั้น จึงกล่าวสองคาถาว่า
ข้าแต่ท่านท้าวสักกะ พระองค์ตรัสถามข้า-
พระบาทถึงปัญหาอันใดว่า จุติมาจากภพไหนจึงได้มา
ถึงภพของเรานี้ กรุงพาราณสี เป็นราชธานีของแคว้น
กาสี เมื่อก่อนข้าพระบาทอยู่ในนครนั้น เป็นธิดา
นายช่างหูก เป็นผู้มีใจเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระ-
ธรรม และพระสงฆ์ เชื่อมั่นโดยส่วนเดียว ไม่สงสัย
มีสิกขาบทอันได้สมาทานแล้วไม่ขาดวิ่น ได้บรรลุ
อริยผลเป็นผู้แน่นอนในธรรม คือความตรัสรู้ เป็นผู้มี
อนามัย.

ท้าวสักกเทวราช เมื่อจะทรงอนุโมทนาบุญสมบัติของเทพธิดานั้น
จึงตรัสกึ่งคาถาว่า
ดูก่อนเทพธิดาผู้รุ่งเรืองด้วยยศโดยธรรม มีใจ
เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์
เชื่อมั่นโดยส่วนเดียว ไม่สงสัย ผู้มีสิกขาบทไม่ขาด

วิ่น บรรลุอริยผล ผู้แน่นอนในธรรมคือความตรัสรู้ผู้มี
อนามัย เราขอแสดงความยินดีต่อบุญสมบัตินั้นของ
ท่าน และการมาดีของท่าน.

จบเปสการิยวิมาน

อรรถกถาเปสการิยวิมาน


เปสการิยวิมาน มีคาถาว่า อิทํ วิมานํ รุจิรํ ปภสฺสรํ เป็นต้น.
เปสการิยวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ป่าอิสิปตนมิคทายวัน กรุง-
พาราณสี สมัยนั้น เวลาเช้า ภิกษุเป็นอันมากนุ่งแล้ว ถือบาตรจีวรเข้า
ไปบิณฑบาตยังกรุงพาราณสี. ภิกษุเหล่านั้นเดินเข้าไปใกล้ประตูเรือนของ
พราหมณ์ผู้หนึ่ง ในเรือนหลังนั้นธิดาของพราหมณ์ ชื่อเปสการี กำลัง
เก็บเหาจากศรีษะของมารดา ใกล้กับประตูเรือน เห็นภิกษุเหล่านั้นกำลัง
เดินไป จึงพูดกะมารดาว่า แม่จ๋า นักบวชเหล่านี้ ยังหนุ่มแน่นอยู่ใน
ปฐมวัย สะสวย น่าดูน่าชม ละเอียดอ่อน ชะรอยจะสูญเสียอะไรบางอย่าง
ไปกระมัง เหตุไรหนอจึงพากันบวชในวัยนี้นะแม่นะ มารดาพูดกะธิดาว่า
ลูกเอ๋ย มีโอรสเจ้าศากยะ ออกผนวชจากราชตระกูลศากยะเกิดเป็นพระ-
พุทธเจ้าขึ้นในโลก. พระองค์ทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามใน
ท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ
พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง นักบวชเหล่านี้ฟังธรรมของ