เมนู

โปสาลปัญหาที่ 14


ว่าด้วยภูมิที่ตั้งปัญญา


[438] โปสาลมาณพทูลถามปัญหาว่า
ข้าพระองค์มีความต้องการด้วยปัญ-
หา จึงได้มาเฝ้าพระองค์ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงแสดงอ้างสิ่งที่ล่วงไปแล้ว (พระปรีชา
ญาณในกาลอันเป็นอดีต) ไม่ทรงหวั่นไหว
ทรงตัดความสงสัยได้แล้ว ทรงบรรลุถึงฝั่ง
แห่งธรรมทั้งปวง ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้ศากยะ ข้าพระองค์ขอทูลถามถึงญาณของ
บุคคลผู้มีความสำคัญในรูปก้าวล่วงเสียแล้ว
ละรูปกายได้ทั้งหมด เห็นอยู่วาไม่มีอะไร
น้อยหนึ่งทั้งภายในและภายนอก บุคคลเช่น
นั้นควรแนะนำอย่างไร.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า ดูก่อนโปสาละ
พระตถาคตทรงรู้ยิ่ง ซึ่งภูมิเป็นที่ตั้ง
แห่งวิญญาณทั้งปวง ทรงทราบบุคคลนั้นผู้ยัง
ดำรงอยู่ ผู่น้อมไปแล้วในอากิญจัญญายตน-
สมาบัติเป็นต้น ผู้มีอากิญจัญญายตนสมาบัติ

เป็นต้น นั้นเป็นที่ไปในเบื้องหน้า ผู้ที่เกิด
ในอากิญจัญญายตนภพว่า มีความเพลิด-
เพลินเป็นเครื่องประกอบ ดังนี้แล้ว แต่นั้น
ย่อมเห็นแจ้งในอากิญจัญญายตนสมาบัตินั้น
ญาณของบุคคลนั้น ผู้เป็นพราหมณ์ อยู่จบ
พรหมจรรย์แล้ว เป็นญาณอันถ่องแท้อย่างนี้.

จบโปสาลมาณวกปัญหาที่ 14

อรรถกถาโปสาลสูตร1ที่ 14


โปสาลสูตร

มีคำเริ่มต้นว่า โย อตีตํ เป็นต้น.
ในบทเหล่านั้น บทว่า โย อตีตํ อาทิสติ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้ทรงแสดงอ้างสิ่งที่ล่วงไปแล้ว คือ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใดทรงแสดง
อ้างถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วมีชาติเป็นต้นแม้ชาติหนึ่งของพระองค์ และของสัตว์พวก
อื่น. บทว่า วิภูตรูปสญฺญิสฺส คือบุคคลผู้มีความสำคัญในรูปก้าวล่วงแล้ว.
บทว่า สพฺพกายปฺปหายิโน คือ ละรูปกายได้ทั้งหมดด้วยการละชั่วคราว
และละด้วยการข่มไว้. อธิบายว่า ละปฏิสนธิในรูปภพได้แล้ว. บทว่า นตฺถิ
กิญฺจีติ ปสฺสโต
เห็นอยู่ว่าไม่มีอะไร คือ เห็นอยู่ว่าไม่มีอะไรเพราะเห็นแจ้ง
ว่าวิญญาณไม่มี. ท่านอธิบายว่า ได้อากิญจัญญายตนสมาบัติ. บทว่า ญาณํ
สกฺกานุปุจฺฉามิ
ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นศากยะ ข้าพระองค์ทูลถามถึงญาณ
1. บาลีเป็น โปสาลปัญหา.