เมนู

ชตุกัณณีปัญหาที่ 11


ว่าด้วยธรรมเครื่องละชาติชรา


[435] ชตุกัณณีมาณพทูลถามปัญหาว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้มีความเพียร ข้า-
พระองค์ได้ฟังว่าพระองค์เป็นผู้ไม่ใคร่กาม
จึงมาเฝ้าเพื่อทูลถามพระองค์ผู้ล่วงห้วงน้ำคือ
กิเลสเสียได้ ไม่มีกาม ข้าแต่พระองค์ผู้มีพระ-
เนตรคือพระสัพพัญญุตญาณเกิดพร้อมแล้ว
ขอพระองค์ตรัสบอกทางสันติ ข้าแต่พระผู้-
มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกทาง
สันตินั้นแก่ข้าพระองค์ตามจริงเถิด.
เพราะว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมี
เดช ครอบงำกามทั้งหลายเสียแล้วด้วยเดช
เหมือนพระอาทิตย์มีเดช คือ รัศมี ครอบ-
งำปฐพีด้วยเดชไปอยู่ในอากาศ ฉะนั้น ข้า
แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้มีปัญญาดังแผ่นดิน
ขอพระองค์จงตรัสบอกธรรมเครื่องละชาติ
และชรา ณ ที่นี้ ที่ข้าพระองค์ควรจะรู้แจ้ง
แก่ข้าพระองค์ผู้มีปัญญาน้อยเถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า

ดูก่อนชตุกัณณี ท่านได้เห็นซึ่งเนก-
ขัมมะโดยความเป็นธรรมอันเกษมแล้ว จง
นำความกำหนัดในกามทั้งหลายออกไปเสีย
ให้สิ้นเถิด อนึ่ง กิเลสชาติเครื่องกังวลที่
ท่านยึดไว้แล้ว (ด้วยอำนาจตัณหาและทิฏฐิ)
ซึ่งควรจะปลดเปลื้องเสีย อย่ามีแล้วแก่ท่าน.
กิเลสเครื่องกังวลใดได้มีแล้วในกาล
ก่อน ท่านจงทำกิเลสเครื่องกังวลนั้นให้
เหือดแห้งเสียเถิด กิเลสเครื่องกังวลในภาย-
หลัง อย่าได้มีแก่ท่าน ถ้าท่านจักไม่ถือเอา
กิเลสเครื่องกังวลในท่ามกลางไซร้ ท่านจัก
เป็นผู้สงบเที่ยวไป.
ดูก่อนพราหมณ์ เมื่อท่านปราศจาก
ความกำหนัดในนามและรูปแล้วโดยประการ
ทั้งปวง อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเหตุให้ไป
สู่อำนาจแห่งมัจจุราช ก็ย่อมไม่มีแก่ท่าน.

จบชตุกัณณีมาณวกปัญหาที่ 11

อรรถกถาชตุกัณณิสูตร/ที่ 11


ชตุกัณณิสูตร

มีคำเริ่มต้นว่า สุตฺวานหํ ดังนี้เป็นต้น.
ในบทเหล่านั้น บทว่า สุตฺวานหํ วีรํ อกามกามึ ข้าพระองค์ได้
ฟังว่าพระองค์ไม่ใคร่กาม คือ ข้าพระองค์ได้ฟังว่าพระพุทธเจ้าชื่อว่าผู้เป็นวีระ
ผู้ไม่ใคร่กาม เพราะไม่ใคร่กามทั้งหลายโดยนัยมีอาทิว่า อิติปิ โส ภควา
ดังนี้. บทว่า อกามมาคมํ ผู้ไม่มีกาม คือ ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถามพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าผู้ไม่มีกาม. บทว่า สหาชเนตฺต ได้แก่ ผู้มีพระเนตรคือ
พระสัพพัญญุตญาณเกิดขึ้นพร้อมแล้ว. บทว่า ยถาตจฺฉํ คือตามความเป็น
จริง. บทว่า พฺรูหิ เม ขอพระองค์จงบอกแก่ข้าพระองค์เถิด ชตุกัณณิมาณพ
กล่าวทูลวิงวอนอีก. เพราะว่าเมื่อทูลวิงวอน ก็พึงกล่าวได้ตั้งพันครั้ง. ก็เรื่อง
อะไรจะกล่าวเพียงสองครั้งเล่า. บทว่า เตชี เตชสา คือ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้มีพระเดช ทรงครอบงำด้วยพระเดช. บทว่า ยมหํ วิชญฺญํ ชาติชราย
อิธ วิปฺปหานํ
คือ ข้าพระองค์พึงรู้ธรรมอันเป็นเหตุละชาติชรา ณ ที่นี้.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะตรัสบอกธรรมนั้นแก่ชตุกัณณิ-
มาณพนั้น จึงได้ตรัสคาถาสามคาถา.
ในบทเหล่านั้น บทว่า เนกฺขมฺมํ ทฏฺฐุ เขมโต เห็นเนกขัมมะโดย
ความเป็นธรรมอันเกษม คือเห็นนิพพานและการปฏิบัติเพื่อถึงนิพพานว่าเป็น
ธรรมอันเกษม. บทว่า อุคฺคหึตํ ได้แก่ ยึดถือด้วยตัณหาและทิฏฐิ. บทว่า
นิรตฺตํ วา ได้แก่ ควรปลดเปลื้องเสีย. บทว่า มา เต วิชฺชิตฺถ คืออย่าได้
1. บาลีเป็น ชตุกัณณีปัญหา.