เมนู

นันทปัญหาที่ 7


ว่าด้วยมุนีผู้ข้ามโอฆะได้แล้ว


[431] นันทมาณพทูลถามปัญหาว่า
ชนทั้งหลายกล่าวว่า มุนีทั้งหลายมี
อยู่ในโลก ชนทั้งหลายกล่าวบุคคลว่าเป็นมุนี
นี้นั้น ด้วยอาการอย่างไรหนอ ชนทั้งหลาย
กล่าวบุคคลผู้ประกอบด้วยญาณ หรือผู้
ประกอบด้วยความเป็นอยู่ ว่าเป็นมุนี.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า
ดูก่อนนันทะ ผู้ฉลาดในโลกนี้ ไม่
กล่าวบุคคลว่าเป็นมุนี ด้วยความเห็น ด้วย
การฟัง หรือด้วยญาณ ชนเหล่าใดกำจัด
เสนามารให้พินาศแล้ว ไม่มีความทุกข์ ไม่
มีความหวัง เที่ยวไปอยู่ เรากล่าวชนเหล่า
นั้นว่าเป็นมุนี.
น. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า สมณ-
พราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง กล่าวความ
บริสุทธิ์ด้วยความเห็นบ้าง ด้วยการฟังบ้าง
ด้วยศีลและพรตบ้าง ด้วยมงคลตื่นข่าว
เป็นต้นเป็นอันมากบ้าง ข้าแต่พระผู้มีพระ-

ภาคเจ้าผู้นิรทุกข์ สมณพราหมณ์เหล่านั้น
ประพฤติอยู่ในทิฏฐิของตนนั้น ตามที่ตน
เห็นว่าเป็นเครื่องบริสุทธิ์ ข้ามพ้นชาติและ
ชราได้บ้างหรือไม่ ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ข้าพระองค์ขอทูลถามพระองค์ ขอพระองค์
ตรัสบอกความข้อนั้นแก่ข้าพระองค์เถิด.
พ. ดูก่อนนันทะ สมณพราหมณ์
เหล่าใดเหล่าหนึ่ง กล่าวความบริสุทธิ์ด้วย
ความเห็นบ้าง ด้วยการฟังบ้าง ด้วยศีลและ
พรตบ้าง ด้วยมงคลตื่นข่าวเป็นต้นเป็นอัน
มากบ้าง สมณพราหมณ์เหล่านั้นประพฤติ
อยู่ในทิฏฐิของตนนั้น ตามที่ตนเห็นว่าเป็น
เครื่องบริสุทธิ์ก็จริง ถึงอย่างนั้น เรากล่าว
ว่าสมณพราหมณ์เหล่านั้น ข้ามพ้นชาติและ
ชราไปไม่ได้.
น. สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
กล่าวความบริสุทธิ์ด้วยการเห็นบ้าง ด้วยการ
ฟังบ้าง ด้วยศีลและพรตบ้าง ด้วยมงคล
ตื่นข่าวเป็นต้นเป็นอันมากบ้าง ข้าแต่
พระองค์ผู้เป็นมุนี ถ้าพระองค์ตรัสว่า

สมณพราหมณ์เหล่านั้นข้ามโอฆะไม่ได้แล้ว
ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ เมื่อเป็นเช่นนี้
ใครเล่าในเทวโลกและมนุษยโลก ข้ามพ้น
ชาติและชราได้แล้วในบัดนี้ ข้าเเต่พระผู้มี
พระภาค เจ้าพระองค์ขอทูลถามพระองค์
ขอพระองค์จงตรัสบอกความข้อนั้นแก่ข้า-
พระองค์เถิด.
พ. ดูก่อนนันทะ เราไม่กล่าวว่า
สมณพราหมณ์ทั้งหมดเป็นผู้อันชาติและชรา
หุ้มห่อไว้แล้ว แต่เรากล่าวว่า คนเหล่าใดใน
โลกนี้ละเสียซึ่งรูปที่ได้เห็นแล้วก็ดี เสียงที่
ได้ฟังแล้วก็ดี อารมณ์ที่ได้ทราบแล้วก็ดี ละ
เสียแม้ซึ่งศีลและพรตทั้งหมดก็ดี ละเสียซึ่ง
มงคลตื่นข่าวเป็นต้น เป็นอันมากทั้งหมดก็ดี
กำหนดรู้ตัณหาแล้ว เป็นผู้หาอาสวะมิได้
คนเหล่านั้นแลข้ามโอฆะได้แล้ว.
น. ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้โคดม
ข้าพระองค์ยินดียิ่งซึ่งพระดำรัสของพระองค์
ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ธรรมอันไม่มีอุปธิ
พระองค์ทรงแสดงชอบแล้ว แม้ข้าพระองค์

ก็กล่าวว่า คนเหล่าใดในโลกนี้ ละเสียซึ่ง
รูปที่ได้เห็นแล้วก็ดี เสียงที่ได้ฟังแล้วก็ดี
อารมณ์ที่ได้ทราบแล้วก็ดี ละเสียแม้ซึ่งศีล
และพรตทั้งหมดก็ดี ละเสียซึ่งมงคลตื่นข่า
เป็นต้นเป็นอันมากทั้งหมดก็ดี กำหนดรู้
ตัณหาแล้ว เป็นผู้หาอาสวะมิได้ คนเหล่านั้น
ข้ามโอฆะได้แล้ว ฉะนี้แล.

จบนันทปัญหาที่ 7

อรรถกถานันทสูตร1ที่ 7


นันทสูตร

มีคำเริ่มต้นว่า สนฺติ โลเก มุนีทั้งหลายมีอยู่ในโลก
ดังนี้.
ในบทเหล่านั้น พึงทราบความในคาถาที่หนึ่งดังต่อไปนี้ ชนทั้งหลาย
มีกษัตริย์เป็นต้น ย่อมกล่าวว่ามุนีมีอยู่ในโลก หมายถึงอาชีวกและนิครนถ์
เป็นต้น. บทว่า ตยิทํ กถํสุ ชนทั้งหลายกล่าวบุคคลว่าเป็นมุนีนั้นด้วยอาการ
อย่างไรหนอ คือ ชนทั้งหลายกล่าวบุคคลผู้ประกอบด้วยญาณ เพราะญาณมี
สมาปัตติญาณเป็นต้นเกิดขึ้น หรือผู้ประกอบด้วยความเป็นอยู่กล่าวคือความ
เป็นอยู่ที่เศร้าหมองมีประการต่าง ๆ ว่าเป็นมุนี.
1. บาลีเป็น นันทปัญหา.