เมนู

ธรรมจริยสูตร1ที่ 6


ว่าด้วยการประพฤติธรรม


[321] พระอริยเจ้าทั้งหลายกล่าว
ความประพฤติทั้งที่เป็นโลกิยะ และโลกุตระ
ทั้งสองอย่างนี้ คือ ธรรมจริยาและ
พรหมจรรย์ ว่าเป็นธรรมเครื่องอยู่อันสูงสุด
ถึงแม้บุคคลออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต
ถ้าบุคคลนั้น เป็นชาติปากกล้า ยินดี
แล้วในความเบียดเบียนแสวงหาอยู่2 ความ
เป็นอยู่ของบุคคลนั้นเลวทราม ย่อมยังกิเลส
ธุลีมีราคะเป็นต้นของตนให้เจริญ.
ภิกษุยินดีแล้วในความทะเลาะ ถูก
ธรรมคือโมหะหุ้มห่อแล้ว ย่อมไม่รู้ธรรมที่
พระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว.
แม้อันเหล่าภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รักบอก
แล้ว ภิกษุผู้ถูกอวิชชาหุ้มห่อแล้ว ทำตนที่
อบรมแล้วให้ลำบากอยู่ ย่อมไม่รู้ความ
เศร้าหมอง ย่อมไม่รู้ทางอันให้ถึงนรก.

1. อรรถกถาเป็น กปิลสูตร. 2. แปลจาก มโค ตามยุ.

เมื่อไม่รู้ก็เข้าถึงวินิบาต จากครรภ์
เข้าถึงครรภ์ จากที่มืดเข้าถึงที่มืด ภิกษุผู้เช่น
นั้นแล ละไปแล้ว ย่อมเข้าถึงความทุกข์
ก็บุคคลใดผู้มีการงานเศร้าหมองเห็นปานนี้
ตลอดกาลนาน พึงเป็นผู้เต็มแล้วด้วยบาป
เหมือนหลุมคูถที่เต็มอยู่นานปี พึงเป็นหลุม
เต็มด้วยคูถ ฉะนั้น.
บุคคลนั้นเป็นผู้มีกิเลสเครื่องยียวน
หมดจดได้โดยยาก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายจงรู้จักบุคคลผู้อาศัยเรือน ผู้มี
ความปรารถนาลามก ผู้มีความดำริลามก
ผู้มีอาจาระและโคจรลามกเห็นปานนี้.
เธอทั้งปวงพึงเป็นผู้พร้อมเพรียงกัน
เว้นบุคคลนั้นเสีย จงกำยัดบุคคลผู้เป็นเพียง
ดังแกลบ จงคร่าบุคคลผู้เป็นเพียงดัง
หยากเหยื่อออกเสีย แต่นั้นจงขบบุคคลลีบผู้
ไม่ใช่สมณะ แต่มีความสำคัญว่าเป็นสมณะ
ไปเสีย.
ครั้นกำจัดบุคคลผู้มีความปรารถนา
ลามก มีอาจาระและโคจรลามกออกไปแล้ว

เธอทั้งหลายผู้บริสุทธิ์แล้ว มีความเคารพกัน
และกัน จงสำเร็จการอยู่ร่วม ด้วยบุคคลผู้
บริสุทธิ์ทั้งหลาย แต่นั้น เธอทั้งหลายผู้
พร้อมเพรียงกัน มีปัญญาเครื่องรักษาตน
จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.

จบธรรมจริยสูตรที่ 6

อรรถกถาปิลสูตร1ที่ 6


กปิลสูตร มีคำเริ่มต้นว่า ธมฺมจริยํ ดังนี้.
ถามว่า พระสูตรนี้มีการอุบัติขึ้นเป็นอย่างไร ?
ตอบว่า พระสูตรนี้มีการอุบัติขึ้นดังต่อไปนี้ :-
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะเสด็จปรินิพพานแล้วโดยนัย
ที่กล่าวแล้วในหมวดสูตรนั่นแล กุลบุตร 2 พี่น้องออกบวชในสำนักแห่งสาวก
ทั้งหลาย ผู้พี่ชื่อว่า โสธนะ ผู้น้องชื่อว่า กปิละ ท่านทั้งสองมีมารดาชื่อ
ว่า สาธนี มีน้องสาวชื่อว่า ตาปนา ทั้งมารดาและน้องสาวนั้นบวชในสำนัก
นางภิกษุณี ต่อแต่นั้นภิกษุแม้ทั้งสองเหล่านั้น ก็เรียนถามว่า ข้าแต่ท่านผู้
เจริญ ในพระศาสนามีธุระอยู่กี่อย่าง ดังนี้ ฟังคำตอบแล้วโดยนัยอันข้าพเจ้า
กล่าวแล้วในเหมวดสูตรนั้นแล. ในบรรดาพระภิกษุทั้งสองนั้น พระผู้พี่
คิดว่า เราจะบำเพ็ญวาสธุระ (ธุระเป็นเครื่องอบรมตน) ดังนี้แล้วก็อยู่ใน
1. บาลีว่า ธรรมจริยสูตร.