เมนู

ธนิยสูตรที่ 2


ว่าด้วยคาถาโต้ตอบระหว่างนายธนิยะกับพระพุทธเจ้า


นายธนิยะคนเลี้ยงโคได้กล่าวคาถาว่า
[295] เรามีข้าวสำเร็จแล้ว มีน้ำนม
รีด (จากแม่โค) รองไว้แล้ว มีการอยู่กับ
ชนผู้เป็นบริวาร ผู้มีความประพฤติอนุกูล
เสมอกันที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำมหี เรามุงบังกระ-
ท่อมแล้ว ก่อไฟไว้แล้ว แน่ะฝน หากว่า
ท่านย่อมปรารถนาก็เชิญตกลงมาเถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระคาถาตอบว่า
เราเป็นผู้ไม่โกรธ มีกิเลสดุจหลักตอ
ปราศไปแล้ว เรามีการอยู่สิ้นราตรีหนึ่งที่
ใกล้ฝั่งแม่น้ำมหี กระท่อมมีหลังคาอันเปิด
แล้ว ไฟดับแล้ว แน่ะฝน หากว่าท่าน
ปรารถนาก็เชิญตกลงมาเถิด.

นายธนิยะคนเลี้ยงโคได้กล่าวคาถาว่า
เหลือบและยุงย่อมไม่มี โคทั้งหลาย
ย่อมเที่ยวไปในประเทศใกล้แม่น้ำ ซึ่งมีหญ้า
งอกขึ้นแล้ว พึงอดทนแม้ซึ่งฝนที่ตกลงมา

ได้ แน่ะฝน หากว่าท่านปรารถนาก็เชิญตก
ลงมาเถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระคาถาตอบว่า
ก็เราผูกแพไว้แล้ว ตกแต่งดีแล้ว
กำจัดโอฆะ ข้ามถึงฝั่งแล้ว ความต้องการ
ด้วยแพย่อมไม่มี แน่ะฝน หากว่าท่าน
ปรารถนาก็เชิญตกลงมาเถิด.

นายธนิยะคนเลี้ยงโคได้กล่าวคาถาว่า
ภริยาเชื่อฟังเรา ไม่โลเล เป็นที่
พอใจ อยู่ร่วมกันสิ้นกาลนาน เราไม่ได้ยิน
ความชั่วอะไร ๆ ของภริยานั้น แน่ะฝน
หากท่านปรารถนาก็เชิญตกลงมาเถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระคาถาตอบว่า
จิตเชื่อฟังเรา หลุดพ้นแล้ว เรา
อบรมแล้ว ฝึกหัดดีแล้วสิ้นกาลนาน และ
ความชั่วของเราย่อมไม่มี แน่ะฝน หากว่า
ท่านปรารถนาก็เชิญตกลงมาเถิด.

นายธนิยะคนเลี้ยงโคได้กล่าวคาถาว่า
เราเป็นผู้เลี้ยงตนด้วยอาหารและ
เครื่องนุ่งห่มและบุตรทั้งหลายของเราดำรง

อยู่ดี ไม่มีโรค เราไม่ได้ยินความชั่วอะไร ๆ
ของบุตรเหล่านั้น แน่ะฝน หากว่าท่าน
ปรารถนาก็เชิญตกลงมาเถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระคาถาตอบว่า
เราไม่เป็นลูกจ้างของใคร ๆ เราเที่ยว
ไปด้วยความเป็นพระสัพพัญญูผู้ไม่มีความ
ต้องการในโลกทั้งปวง เราไม่มีความต้องการ
ค่าจ้าง แน่ะฝน หากว่าท่านปรารถนาก็เชิญ
ตกลงมาเถิด.

นายธนิยะคนเลี้ยงโคได้กล่าวคาถาว่า
โคแก่ ลูกโคอ่อนที่ยังไม่ได้ฝึก แม่
โคที่มีครรภ์ ลูกโคหนุ่ม แม่โคตัวปรารถนา
ประเวณีก็มีอยู่ อนึ่ง แม้โคที่เป็นเจ้าฝูงแห่ง
โคก็มีอยู่ แน่ะฝน หากว่าท่านปรารถนาก็
เชิญตกลงมาเถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระคาถาตอบว่า
โคแก่ ลูกโคอ่อนที่ยังไม่ได้ฝึก
แม่โคที่มีครรภ์ ลูกโคหนุ่ม แม่โคที่ปรารถนา
ประเวณีก็ไม่มี อนึ่ง แม้โคที่เป็นเจ้าฝูงแห่ง
โคก็ไม่มี แน่ะฝน หากว่าท่านปรารถนาก็
เชิญตกลงมาเถิด.

นายธนิยะคนเลี้ยงโคได้กล่าวคาถาว่า

เสาเป็นที่ผูกโคเราฝังไว้แล้ว ไม่
หวั่นไหว เชือกสำหรับผูกพิเศษประกอบ
ด้วยปมและบ่วงเราทำไว้แล้ว สำเร็จด้วย
หญ้ามุงกระต่ายเป็นของใหม่มีสันฐานดี
สำหรับผูกโคทั้งหลาย แม้โคหนุ่ม ๆ ก็ไม่
อาจจะให้ขาดได้เลย แน่ะฝน หากว่าท่าน
ปรารถนาก็เชิญตกลงมาเถิด.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระคาถาตอบว่า
เราจักไม่เข้าถึงการนอนในครรภ์อีก
เหมือนโคตัดเชือกสำหรับผูกขาดแล้ว
เหมือนช้างทำลายเถากระพังโหมได้แล้ว
ฉะนั้น แน่ะฝน หากว่าท่านปรารถนาก็เชิญ
ตกลงมาเถิด.

ฝนได้ตกเต็มทั้งที่ลุ่ม ทั้งที่ดอน ใน
ขณะนั้นเอง นายธนิยะคนเลี้ยงโค ได้ยิน
เสียงฝนตกอยู่ ได้กราบทูลเนื้อความนี้ว่า
เป็นลาภของข้าพระองค์ไม่น้อยหนอ ที่ข้า
พระองค์ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าแต่
พระองค์ผู้มีจักษุ ข้าพระองค์ขอถึง พระองค์
ว่าเป็นสรณะ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นมหามุนี
ขอพระองค์ทรงเป็นพระศาสดาของข้าพระ-

องค์ ทั้งภริยาทั้งข้าพระองค์เป็นผู้เชื่อฟัง
ประพฤติพรหมจรรย์ในพระสุคต ข้า-
พระองค์เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งชาติ และมรณะ
จะเป็นผู้กระทำซึ่งที่สุดแห่งทุกข์ได้.

มารผู้มีบาปได้กล่าวคาถาว่า
คนย่อมเพลิดเพลินเพราะอุปธิทั้ง
หลาย เปรียบเหมือนบุคคลผู้มีบุตร ย่อม
เพลิดเพลินเพราะบุตร บุคคลมีโค ย่อม
เพลิดเพลินเพราะโค ฉะนั้น คนผู้ไม่มีอุปธิ
ย่อมไม่เพลิดเพลินเลย.

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระคาถาตอบว่า
คนย่อมเศร้าโศกเพราะอุปธิทั้งหลาย
เปรียบเหมือนบุคคลผู้มีบุตร ย่อมเศร้าโศก
เพราะบุตร บุคคลผู้มีโค ย่อมเศร้าโศก
เพราะโค ฉะนั้น คนผู้ไม่มีอุปธิ ย่อมไม่
เศร้าโศกเลย.

จบธนิยสูตรที่ 2

อรรถกถาธนิยสูตร


ธนิยสูตร ประกอบด้วยคาถาว่า ปกฺโกทโน เป็นต้น


ธนิยสูตรนี้ มีเหตุอุบัติขึ้นเป็นอย่างไร ? ธนิยสูตรนี้ มีเหตุอุบัติขึ้น
ดังต่อไปนี้ :-
พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี โดยสมัยนั้น คนเลี้ยง
โคชื่อ ธนิยะ อาศัยอยู่บนฝั่งแม่น้ำมหี บุพกรรมของนายธนิยะนั้นมีดังต่อไป
นี้ :-
เมื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า กัสสปะ ยังปรากฎอยู่
นายธนิยะผู้นี้ได้ถวายสลากภัตร 20 ที่ แด่พระสงฆ์ทุกวันสิ้น 2 หมื่นปี เขา
จุติจากชาตินั้นแล้ว ก็บังเกิดในเทวโลกทั้งหลายทีเดียว ทำพุทธันดรหนึ่งให้สิ้น
ไปในเทวโลก พอถึงกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย ก็บังเกิดเป็น
บุตรเศรษฐี ในนครธรรมโกรัณฑะซึ่งเป็นนครที่ขึ้นอยู่ในปัพพตรัฐ ในตอน
กลางของวิเทหรัฐ. เขาอาศัยฝูงโคเลี้ยงชีพ ด้วยว่าเขามีโคประมาณ 30,000 ตัว
เขารีดนมจากแม่โค 27,000 ตัว ธรรมดาว่าพวกเลี้ยงโคทั้งหลายไม่ได้อยู่
ประจำที่ พวกเขาอยู่บนบก 4 เดือนในฤดูฝน อีก 8 เดือนที่เหลือ พวกเขา
ได้หญ้าและน้ำที่โคสะดวกก็อยู่ที่นั้น และที่นั้นจะต้องเป็นฝั่งแม่น้ำ หรือไม่ก็
ฝั่งสระน้ำที่เกิดเองตามธรรมชาติ.
ต่อมาในฤดูฝน นายธนิยะผู้นี้ได้ออกจากบ้านที่ตนอยู่ไปเสาะแสวงหา
ช่องทาง (โอกาส) เพื่อให้โคทั้งหลายอยู่อย่างสบาย จึงได้เข้าไปยังโอกาสที่แม่น้ำ