เมนู

ร. แน่ะพนาย ! ไม่ได้ทำการกำหนดกาล.
น. ข้าแต่พระสมมติเทพ พระองค์ทรงทำไม่ดีแล้ว เพราะอมนุษย์
ทั้งหลายย่อมได้กาลที่สักว่ากำหนดแล้วเท่านั้น แต่เมื่อพระองค์ไม่ทรงกำหนด-
กาล ชนบทจักมีความลำบาก เอาเถิดพระเทวะ พระองค์ทรงกระทำอย่างนี้
แม้ก็จริง ถึงอย่างนั้น ขอพระองค์จงทรงขวนขวายน้อย เสวยราชสมบัติเถิด
ข้าพระองค์จักกระทำสิ่งที่ควรทำในเรื่องนี้.

ส่งคนให้ยักษ์กิน


คนรักษาพระนครนั้น ลุกขึ้นตามกาลนั่นเทียว ไปสู่เรือนจำ กล่าว
หมายถึงนักโทษทั้งหลายที่ต้องถูกประหารว่า ผู้ใดต้องการชีวิต ผู้นั้นจงออกมา
ดังนี้แล้ว รับเอานักโทษที่ออกมาคนแรกให้อาบน้ำและให้บริโภคแล้วส่งไปว่า
เจ้าจงให้ถาดอาหารนี้แก่ยักษ์ ยักษ์นิรมิตอัตภาพอันน่าสะพรึงกลัวแล้วเคี้ยวกิน
นักโทษนั้นที่พอเข้ามาภายในโคนต้นไม้นั่นแล ดุจกินหัวมัน ได้ยินว่า ด้วย
อานุภาพของยักษ์ สรีระทั้งสิ้นรวมทั้งเส้นผมเป็นต้น ของมนุษย์ทั้งหลาย
เป็นเหมือนก้อนเนยข้น บุรุษที่ไปเพื่อให้นักโทษถือภัตให้แก่ยักษ์ เห็นยักษ์
นั้นแล้วกลัว จึงบอกตามมิตรสหาย.
จำเดิมแต่นั้น มนุษย์ทั้งหลายโจษจันกันว่า พระราชาจับโจรให้แก่
ยักษ์ ได้งดเว้นจากโจรกรรม โดยสมัยอื่นจากนั้น เรือนจำทั้งหลายจึงว่างเปล่า
เพราะพวกโจรเก่าสิ้นไป เพราะโจรใหม่ทั้งหลายไม่มี ลำดับนั้น คนรักษา
พระนครจึงทูลแด่พระราชา. พระราชาตรัสสั่งให้ทิ้งพระราชทรัพย์ของพระองค์

ที่ตรอกแห่งพระนครทั้งหลาย ด้วยทรงหวังว่า จะพึงมีใคร ๆ ถือเอาทรัพย์
ด้วยความโลภบ้าง ก็ไม่มีใครจับต้องทรัพย์นั้น แม้ด้วยเท้า คนรักษาพระนคร
นั้น เมื่อไม่ได้โจรทั้งหลาย จึงบอกแก่อำมาตย์ทั้งหลาย อำมาตย์ทั้งหลายจึง
ทูลว่า พวกข้าพระองค์จะส่งคนแก่ตามลำดับตระกูล ๆ ละ 1 คนไปให้ แม้โดย
ปกติคนแก่นั้นก็ใกล้ตายแล้ว พระราชาตรัสห้ามว่า มนุษย์ทั้งหลายจักกระทำ
การต่อต้านว่า พระราชาทรงส่งบิดาของพวกเรา ปู่ของพวกเรา พวกท่านอย่า
ชอบใจข้อนั้นเลย พวกอำมาตย์กราบทูลว่า ข้าแต่พระสมมติเทพ ถ้าอย่างนั้น
พวกข้าพระองค์จะส่งทารก ซึ่งกำลังนอนหงาย เพราะทารกเช่นนั้น ย่อม
ไม่มีความเยื่อใยว่า แม่ของเรา พ่อของเรา พระราชาทรงอนุญาต อำมาตย์
เหล่านั้น ก็ได้กระทำอย่างนั้น พวกมารดาของทารกในพระนครก็พาพวกทารก
และพวกสตรีมีครรภ์ ก็พากันหนีให้ทารกทั้งหลายเจริญในชนบทอื่นแล้ว จึง
นำกลับมา เป็นอย่างนี้จนสิ้น 12 ปี.
แต่นั้นในวันหนึ่ง พวกอำมาตย์ค้นหาทั่วพระนคร ก็ไม่ได้ทารกแม้
คนหนึ่ง จึงทูลแด่พระราชาว่า ข้าแต่พระสมมติเทพ ในพระนครไม่มีทารก
เว้นแต่อาฬวกุมาร พระราชโอรสของพระองค์ในภายในบุรี พระราชาตรัสว่า
บุตรของเราย่อมเป็นที่รักฉันใด ผู้เป็นที่รักยิ่งกว่าตน ย่อมไม่มีแก่สรรพโลก
ฉันนั้น จงไปเถิด จงให้อาฬวกุมารแม้นั้นแล้ว รักษาชีวิตของเราไว้ ก็โดย
สมัยนั้น พระราชมารดาของพระอาฬวกุมารทรงให้พระโอรสทรงสนานแล้ว
ประดับตกแต่ง สวมเทริดที่ทำด้วยผ้าเปลือกไม้ ให้บรรทมบนพระเพลา
ประทับนั่งอยู่แล้ว ราชบุรุษทั้งหลายไปในที่นั้น ด้วยคำสั่งของพระราชา ได้

มาเอาพระราชกุมารนั้น จากพระมารดานั้น ผู้กำลังทรงรำพันอยู่ พร้อมด้วย
หญิงพี่เลี้ยง 16,000 คน หลีกไป ด้วยกล่าวว่า พระราชกุมารจะเป็นอาหาร
ของยักษ์ในวันพรุ่งนี้.

ทรงทรมานอาฬวกยักษ์


ก็ในวันนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จลุกขึ้นในสมัยใกล้รุ่ง ทรงเข้า
มหากรุณาสมาบัติ ในพระคันธกุฎีที่พระเชตวันมหาวิหาร เมื่อทรงตรวจดูโลก
ด้วยพุทธจักษุอีก ทรงเห็นอุปนิสัยของการบรรลุพระอนาคามิผล ของพระ-
อาฬวกกุมาร การบรรลุโสดาของยักษ์ และในเวลาจบเทศนา สัตว์ 84,000
ได้ดวงตาเห็นธรรม เพราะฉะนั้น เมื่อราตรีสว่างแล้ว ทรงทำปุเรภัตกิจ
เสร็จแล้ว แต่ทรงทำปัจฉาภัตกิจยังไม่เสร็จเทียว เมื่อวันอุโบสถแห่งกาฬปักษ์
เป็นไปอยู่ พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว พระองค์เดียวไม่มีเพื่อน ทรงถือบาตรและจีวร
เสด็จไปสิ้นทาง 3 โยชน์จากกรุงสาวัตถี โดยเสด็จไปด้วยพระบาทนั่นแล
เสด็จเข้าไปยังที่อยู่ของยักษ์นั้น ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า ในที่อยู่ของ
อาฬวกยักษ์.
ถามว่า ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ โคนต้นไทรซึ่งเป็นที่อยู่
ของอาฬวกยักษ์ หรือในที่อยู่เท่านั้น.
ตอบว่า ในที่อยู่เท่านั้น ด้วยว่า ยักษ์ทั้งหลายย่อมเห็นที่อยู่ของตน
โดยประการใด แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ประทับอยู่ โดยประการนั้น พระองค์
ทรงไปในที่นั้น ประทับยืนอยู่ที่ประตูที่อยู่ ในกาลนั้น อาฬวกยักษ์ไปสู่สมาคม
แห่งยักษ์ในหิมวันตประเทศ แต่นั้น ยักษ์ชื่อ คัทรภะ ผู้รักษาประตูของ