เมนู

เมตตสูตรที่ 8


ว่าด้วยตรัสรู้สันตบท


[308] กุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์
ปรารถนาเพื่อจะตรัสรู้สันตบท พึงบำเพ็ญ
ไตรสิกขา กุลบุตรนั้นพึงเป็นผู้อาจหาญ
เป็นผู้ตรง ซื่อตรง ว่าง่าย อ่อนโยน ไม่
เย่อหยิ่ง สันโดษ เลี้ยงง่าย มีกิจน้อย มี
ความประพฤติเบา มีอินทรีย์อันสงบแล้ว
มีปัญญาเครื่องรักษาตน ไม่คะนอง ไม่พัว-
พันในสกุลทั้งหลาย และไม่พึงประพฤติ
ทุจริตเล็กน้อยอะไร ๆ ซึ่งเป็นเหตุ ให้ท่านผู้รู้
เหล่าอื่นติเตียนได้ พึงเจริญเมตตาในสัตว์
ทั้งหลายว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้มีสุข
มีความเกษม มีตนถึงความสุขเถิด สัตว์มี
ชีวิตเหล่าใดเหล่าหนึ่งมีอยู่ เป็นผู้สะดุ้งหรือ
เป็นผู้มั่นคง ไม่มีส่วนเหลือ สัตว์เหล่าใดมี
กายยาวหรือใหญ่ ปานกลางหรือสั้น ผอม
หรือพี ที่เราเห็นแล้วหรือไม่ได้เห็น อยู่ใน
ที่ไกลหรือในที่ใกล้ ที่เกิดแล้วหรือแสวงหา
ที่เกิด ขอสัตว์ทั้งหมดนั้นจงเป็นผู้มีตนถึง

ความสุขเถิด สัตว์อื่นไม่พึงข่มขู่สัตว์อื่น
ไม่พึงดูหมิ่นอะไรเขาในที่ไหน ๆ ไม่พึง
ปรารถนาทุกข์ให้แก่กันและกัน เพราะความ
โกรธ เพราะความเคียดแค้น.

มารดาถนอมบุตรคนเดียวผู้เกิดใน
ตน แม้ด้วยการยอมสละชีวิตได้ ฉันใด
กุลบุตรผู้ฉลาดในประโยชน์ พึงเจริญเมตตา
มีในใจไม่มีประมาณในสัตว์ทั้งปวง แม้ฉัน-
นั้น กุลบุตรนั้นพึงเจริญเมตตามีในใจไม่มี
ประมาณ ไปในโลกทั้งสิ้น ทั้งเบื้องบน
เบื้องต่ำ เบื้องขวาง ไม่คับแคบ ไม่มีเวร
ไม่มีศัตรู กุลบุตรผู้เจริญเมตตานั้นยินอยู่ก็ดี
เดินอยู่ก็ดี นั่งอยู่ก็ดี นอนอยู่ก็ดี พึงเป็นผู้
ปราศจากความง่วงเหงาเพียงใด ก็พึงตั้งสติ
นี้ไว้เพียงนั้น บัณฑิตทั้งหลายกล่าววิหาร-
ธรรมนี้ ว่าเป็นพรหมวิหารในธรรมวินัยของ
พระอริยเจ้านี้ และกุลบุตรผู้เจริญเมตตาไม่
เข้าไปอาศัยทิฏฐิ เป็นผู้มีศีลถึงพร้อมแล้ว
ด้วยทัศนะ นำความยินดีในกามทั้งหลาย
ออกได้แล้ว ย่อมไม่ถึงความนอนในครรภ์
อีกโดยแท้แล.

จบเมตตสูตรที่ 8

อรรถกถาเมตตสูตร


เมตตสูตรเริ่มต้นด้วยคาถาว่า กรณียมตฺถกุสเลน ดังนี้ :-
มีอุบัติอย่างไร ? ได้ยินว่า ภิกษุทั้งหลายถูกเทวดาทั้งหลายข้างภูเขา
หิมวันต์หลอกให้กลัวแล้ว มาสู่กรุงสาวัตถี อันเป็นสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระสูตรนี้ เพื่อประโยชน์แก่การป้องกัน และเพื่อ
ประโยชน์แก่กรรมฐานแก่ภิกษุเหล่านั้น ความสังเขปเพียงเท่านี้ก่อน ส่วนความ
พิสดารมีดังนี้ :-
ในสมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อวันเข้าพรรษาใกล้เข้าแล้วประทับ
อยู่ ณ กรุงสาวัตถี ก็โดยสมัยนั้น ภิกษุชาวเมืองต่าง ๆ จำนวนมาก เรียน
กรรมฐานในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว มีความประสงค์เพื่อเข้า
จำพรรษา ณ ที่นั้น ๆ จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ยินว่า ในที่นั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกรรมฐาน อันอนุกูลแก่จริตจำนวน 84,000 ประเภท
โดยนัยนี้คืออสุภกรรมฐาน 11 อย่าง ด้วยอำนาจแห่งสวิญญาณกะและอวิญ-
ญาณกะ สำหรับผู้ราคจริตทั้งหลาย กรรมฐานมีเมตตาเป็นต้น 4 อย่าง
สำหรับผู้โทสจริตทั้งหลาย กรรมฐานทั้งหลายมีมรณานุสติกรรมฐานเป็นต้น
สำหรับผู้โมหจริตทั้งหลาย กรรมฐานทั้งหลายมีอานาปานัสสติและปฐวีกสิณ
เป็นต้น สำหรับผู้วิตกจริตทั้งหลาย กรรมฐานทั้งหลายมีพุทธานุสติกรรมฐาน
เป็นต้น สำหรับผู้ศรัทธาจริตทั้งหลาย กรรมฐานทั้งหลายมีจตุววัฏฐานเป็นต้น
สำหรับผู้พุทธิจริตทั้งหลาย.