เมนู

ดอกไม้เป็นต้น ออกจากเรือน ดำเนินไปตามถนน บูชาพระผู้มีพระภาคเจ้า
ด้วยของหอมดอกไม้เป็นต้นโดยเคารพ ทูลขอว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ขอพระองค์โปรดทรงให้ภิกษุ 10 รูปแก่ข้าพระองค์ ภิกษุ 20 รูปแก่ข้าพระองค์
ภิกษุ 100 รูปแก่ข้าพระองค์ ดังนี้แล้ว รับบาตรแม้ของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ปูอาสนะ ต้อนรับด้วยบิณฑบาตโดยเคารพ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงกระทำภัตกิจเสร็จแล้ว ตรวจดูสันดานของ
มนุษย์เหล่านั้นแล้ว ทรงแสดงพระธรรมโดยประการที่บางพวกตั้งอยู่ในสรณ-
คมน์ บางพวกตั้งอยู่ในศีล 5 บางพวกตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล สกทาคามิผล
และอนาคามิผล อย่างใดอย่างหนึ่ง บางพวกบวชแล้วตั้งอยู่ในอัครผล คือ
พระอรหัต. ครั้นทรงอนุเคราะห์ชนนั้น ๆ อย่างนี้แล้ว เสด็จลุกจากอาสนะ
เสด็จไปสู่วิหาร ประทับนั่งบนบวรพุทธาสน์ที่ปูแล้ว ในโรงมณฑลนั้น ๆ
รอพระภิกษุทั้งหลายฉันภัตกิจเสร็จ ต่อจากนั้นผู้อุปัฏฐากทูลการเสร็จภัตกิจของ
ภิกษุทั้งหลายให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบ ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า
ก็เสด็จเข้าพระคันธกุฎี นี้เป็นปุเรภัตกิจก่อน คำใดที่ไม่ได้กล่าวไว้ในสูตรนี้
คำนั้น อันบัณฑิตพึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในพรหมายุสูตรนั้นแล.

[ปัจฉาภัตกิจ]


ลำดับนั้น. พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงกระทำปุเรภัตกิจเสร็จอย่างนี้แล้ว
ประทับนั่ง ณ ที่บำรุงของพระคันธกุฎี ทรงล้างพระบาท ประทับยืน ณ แท่น
ประทับ ทรงโอวาทภิกษุสงฆ์ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงยัง
ประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด การเกิด

ขึ้นของพระพุทธเจ้าได้ยาก การกลับได้มนุษย์ได้ยาก ความถึงพร้อมด้วย
ศรัทธาได้ยาก การบรรพชาได้ยาก การฟังธรรมได้ยากในโลก แต่นั้นภิกษุ
ทั้งหลายถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ทูลถามกรรมฐาน ครั้นแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงให้กรรมฐานด้วยอำนาจแห่งจริยาแก่ภิกษุทั้งหลายภิกษุ
เหล่านั้นเรียนกรรมฐาน อภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ไปสู่สถานที่อยู่
ของตน ๆ บางพวกไปสู่ป่า บางพวกไปสู่รุกขมูล บางพวกไปสู่ที่ทั้งหลายมี
ภูเขาเป็นต้นแห่งใดแห่งหนึ่ง บางพวกไปสู่ภพของจาตุมมหาราชิกาเป็นต้น
ฯลฯ บางพวกไปสู่ภพชั้นวสวัตดี.
ต่อแต่นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าพระคันธกุฎี ถ้าทรงพระ-
ประสงค์ มีพระสติสัมปชัญญะสำเร็จสีหไสยชั่วครู่ โดยปรัศว์เบื้องขวา ครั้นมี
พระวรกายกระปรี้กระเปร่าแล้ว เสด็จลุกขึ้น ทรงตรวจดูโลกในส่วนที่สอง.
ในส่วนที่สาม พระองค์ประทับอยู่อาศัยคามหรือนิคมใด ชนทั้งหลายในคาม-
นิคมนั้น ในปุเรภัต ถวายทาน ในปัจฉาภัตนุ่งดี ห่มดี ถือเอาดอกไม้และ
ของหอมเป็นต้น ประชุมในวิหาร ต่อจากนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไป
โดยปาฏิหาริย์อันสมควรแก่บริษัทที่ประชุม ประทับนั่งบนบวรพุทธาสนะที่ปูดี
แล้วในธรรมสภา ทรงแสดงธรรมอันสมควรแก่กาล สมควรแก่ประมาณ
ครั้นทรงรู้กาลแล้ว จึงทรงส่งบริษัทกลับ ถัดจากนั้น ถ้ามีพระประสงค์จะ
ชำระพระวรกาย ก็เสด็จลุกจากพุทธาสนะ เสด็จไปสู่โอกาสที่ผู้อุปัฏฐากตระ-
เตรียมน้ำไว้ ทรงเกาะมือของผู้อุปัฏฐาก รับผ้าอาบน้ำ เสด็จเข้าสู่โรงอาบน้ำ
ฝ่ายผู้อุปัฏฐากนำพุทธาสนะมาปูที่บริเวณพระคันธกุฎี พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้น

ทรงชำระพระวรกายแล้ว ทรงนุ่งผ้าที่ย้อมแล้ว ทรงคาดประคดเอว ทรงห่ม
ผ้าอุตราสงค์ แล้วเสด็จไปในบริเวณพระคันธกุฎีนั้น ประทับนั่งพระองค์เดียว
เท่านั้น หลีกเร้นชั่วครู่.
ลำดับนั้น ภิกษุทั้งหลายมาจากที่นั้น ๆ มาสู่ที่บำรุงของพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ในภิกษุเหล่านั้น บางพวกทูลถามปัญหา บางพวกทูลขอกรรมฐาน
บางพวกทูลขอฟังธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงยังความประสงค์ของภิกษุ
เหล่านั้นให้สำเร็จจนถึงปฐมยาม ในมัชฌิมยามเทวดาในหมื่นโลกธาตุทั้งหลาย
เมื่อได้โอกาส ก็เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทูลถามปัญหาตามที่ประสงค์ โดย
ที่สุดแม้ 4 อักษร พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแก้ปัญหาของเทวดาเหล่านั้นอยู่
จนถึงมัชฌิมยาม ต่อจากนั้นทรงกระทำปัจฉิมยามให้เป็น 4 ส่วน ส่วนหนึ่ง
ทรงอธิษฐานจงกรม ส่วนที่สองเสด็จเข้าสู่พระคันธกุฎี ทรงมีพระสติสัมปชัญญะ
สำเร็จสีหไสย โดยปรัศว์เบื้องขวา ส่วนที่สาม ทรงยังเวลาให้ล่วงไปด้วย
ผลสมาบัติ ส่วนที่สี่ทรงเข้ามหากรุณาสมาบัติ ตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ เพื่อ
ทรงดูสัตว์ผู้มีธุลีในจักษุน้อย หรือมีธุลีในจักษุมากเป็นต้น นี้ปัจฉาภัตกิจ.

[โปรดกสิภารทวาชพราหมณ์]


ในที่สุดแห่งส่วนที่สี่ กล่าวคือการตรวจดูโลก แห่งปัจฉาภัตกิจนี้
อย่างนี้แล้ว ทรงตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ เพื่อทรงเห็นสัตว์ทั้งหลายผู้ยังมิได้
กระทำอธิการและได้กระทำอธิการ ในพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์
ในทาน ศีล อุโบสถกรรมเป็นต้น ผู้ไม่ถึงพร้อมด้วยอุปนิสัย ผู้ถึงพร้อมด้วย
อุปนิสัย และผู้ถึงพร้อมอุปนิสัยคือพระอรหัต ทรงเห็นกสิภารทวาชพราหมณ์