เมนู

ของโลภะและโทสะตามที่กล่าวแล้ว โดยสมุจเฉทด้วยตติยมรรค. ก็ในพระสูตร
นี้ท่านประสงค์เอาโมหะอันอนาคามิมรรคพึงฆ่านั่นเอง.
บทว่า นุฬฺหาเส ได้แก่ ลุ่มหลงในประโยชน์ และมิใช่ประโยชน์
ของตน อันต่างด้วยกุศลอกุศลมีโทษและไม่มีโทษเป็นต้น . บทที่เหลือมีนัย
ดังกล่าวแล้วนั่นแล.
จบอรรถกถาโมหสูตรที่ 3

4. โกธสูตร


ว่าด้วยละความโกรธได้เป็นอนาคามี


[182] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าได้สดับ
มาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เราเป็นผู้
รับรองเธอทั้งหลาย เพื่อความเป็นพระอนาคามี ธรรมอย่างหนึ่งเป็นไฉน
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่ง คือโกธะได้ เราเป็นผู้
รับรองเธอทั้งหลายเพื่อความเป็นพระอนาคามี.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มี-
พระภาคเจ้าตรัสคาถาประพันธ์นี้ดังนี้ว่า
ชนผู้เห็นแจ้งทั้งหลาย รู้ชัดด้วยดี
ซึ่งโกธะอันเป็นเหตุให้สัตว์ผู้โกรธไปสู่
ทุคติ แล้วละได้ ครั้นละได้แล้ว ย่อม
ไม่มาสู่โลกนี้อีกในกาลไหน ๆ.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.
จบโกธสูตรที่ 4

อรรถกถาโกธสูตร


ในโกธสูตรที่ 4 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า โกธํ คือ โทสะ เพราะโทสะนั้นแล ท่านกล่าวอย่างนี้รู้ด้วย
อัธยาศัยของบุคคลผู้รู้โดยปริยายของโกธะ ฉะนั้น พึงทราบความในสูตรนี้
โดยนัยที่กล่าวแล้วในสูตรที่ 2 นั่นแล. อีกอย่างหนึ่ง พึงเห็นความโกรธมี
ความขัดเคืองเป็นลักษณะ มีทำความอาฆาตเป็นรส มีความวิบัติแห่งจิตเป็น
อาการปรากฏ ความเน่าของจิต. พึงทราบความต่างกันแม้นี้.
จบอรรถกถาโกธสูตรที่ 4

5. มักขสูตร


ว่าด้วยละมักขะได้เป็นพระอนาคามี


[183] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับ
มาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายละธรรมอย่างหนึ่งได้ เราเป็นผู้
รับรองเธอทั้งหลายเพื่อความเป็นพระอนาคามี ธรรมอย่างหนึ่งเป็นไฉน