เมนู

อเสกขมรรค อันบุคคลผู้ไม่รู้แจ้งสัจจะ 4 ตามความเป็นจริงโดยนัยเป็นต้นว่า
นี้ทุกข์ ผู้ชื่อว่าเป็นคนโง่ คือ ผู้ไม่เข้าใจ เพราะไม่รู้แจ้งนั้นนั่นแล ไม่
สามารถบรรลุได้ ฉันใด แม้บุคคลผู้เกียจคร้านไม่มีความเพียร ก็ไม่สามารถ
บรรลุได้ฉันนั้น เพราะเหตุนั้น จึงต้องปรารภความเพียรเพื่อบรรลุนิพพาน
นั้น. ด้วยเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
ธรรมนี้เป็นธรรมของบุคคลผู้ปรารภ
ความเพียร ไม่ใช่ของบุคคลผู้เกียจคร้าน
ขอเธอทั้งหลายจงปรารภ จงบากบั่น จง
ประกอบอยู่ได้คำสอนของพระพุทธเจ้าเถิด
ขอเธอทั้งหลาย จงทำลายเสนามฤตยู ให้
เหมือนช้างทำลายเรือนไม้อ้อ ฉะนั้นเถิด.

จบอรรถกถาชานสูตรที่ 3

4. สมณสูตร


ว่าด้วยสมณะหรือพราหมณ์ไม่รู้จริง


[283] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ย่อมไม่รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกข-
นิโรธคามินีปฏิปทา สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เราตถาคตหายกย่องว่าเป็น
สมณะในหมู่สมณะหรือว่าเป็นพราหมณ์ในหมู่พราหมณ์ไม่ และท่านเหล่านั้น
หาได้ทำให้แจ้งซึ่งผล คือ ความเป็นสมณะ และผลคือความเป็นพราหมณ์ด้วย
ปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ไม่ ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด