เมนู

ภิกษุผู้มีการงานเป็นที่มายินดี ยินดี
ในการคุย ชอบหลับและฟุ้งซ่าน ผู้เช่นนั้น
ไม่ควรเพื่อบรรลุสัมโพธิญาณอันสูงสุด
เพราะเหตุนั้นแล ภิกษุพึงเป็นผู้มีกิจน้อย
เว้นจากความหลับไม่ฟุ้งซ่าน ภิกษุผู้เช่น-
นั้นควรเพื่อบรรลุสัมโพธิญาณอันสูงสุด

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.
จบปริหานสูตรที่ 10
จบวรรคที่ 3

อรรถกถาปริหานสูตร


ในปริหานสูตรที่ 10 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปริหานาย สํวตฺตนฺติ ความว่า ย่อมมีเพื่อความไม่เจริญ
คือมีเพื่อเป็นอันตรายต่อการบรรลุมรรค. แต่ขึ้นชื่อว่ามรรคที่ได้บรรลุแล้ว
เสื่อมไม่มี. พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงจำแนกธรรมที่ทรงยกขึ้นแสดง
ด้วยสามารถแห่งธรรมาธิษฐานว่า ธรรม 3 อย่างดังนี้ ด้วยเทศนาที่เป็นบุคลา-
ธิษฐาน จึงตรัสคำมีอาทิว่า อิธ ภิกฺขเว เสโข ภิกฺขุ ดังนี้.
ใน 3 อย่างนั้น ภิกษุชื่อว่า กัมมารามะ เพราะมีการงานเป็นที่มา
ยินดี เพราะต้องเพลิดเพลินอยู่กับ (การงาน). ชื่อว่า กมฺมรโต เพราะ