เมนู

อรรถกถานิสสรณสูตร


ในนิสสรณสูตรที่ 3 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า นิสฺสรณิยา ความว่า ปฏิสังยุตด้วยธาตุที่สลัดออกไป. บทว่า
ธาตุโย ได้แก่ สภาพที่ว่างจากสัตว์. บทว่า กามานํ ได้แก่ กิเลสกาม
และวัตถุกาม. อีกอย่างหนึ่ง บทว่า กามานํ ได้แก่กิเลสกาม เพราะว่าธาตุ
ทั้งหลายเป็นที่ออกไปจากกิเลสกาม ถึงวัตถุกามก็ออกไปเหมือนกัน ไม่ใช่
ออกไปโดยประการอื่น. สมดังที่ตรัสไว้ว่า
อารมณ์ที่วิจิตรทั้งหลายในโลกไม่ใช่
กาม แต่ความกำหนัดที่เกิดจากความดำริ
ของคน (ต่างหาก) เป็นกาม อารมณ์ที่
วิจิตรทั้งหลาย ก็สถิตอยู่ในโลกอย่างนั้น
นั่นแหละ แต่ธีรชนจะนำความพอใจใน
กามนั้นออกไป.

การปราศไป ชื่อว่า นิสสรณะ. บทว่า เนกฺขมฺม ได้แก่ปรมฌาน.
โดยพิเศษแล้ว เนกขัมมะนั้น พึงเห็นว่า มีอสุภะเป็นอารมณ์ แต่ผู้ใดทำฌาน
นั้นให้เป็นเบื้องบาท พิจารณาสังขารทั้งหลาย บรรลุมรรคที่ 3 แล้ว จึงทำ
ให้แจ้งซึ่งพระนิพพานด้วยอนาคามิผล จิตของผู้นั้น จะสลัดออกจากกาม
ทั้งหลายโดยส่วนเดียวเท่านั้น ฉะนั้น เนกขัมมะนี้ พึงทราบว่าเป็นการสลัดออก
ซึ่งกามทั้งหลาย อย่างอุกฤษฏ์. บทว่า รูปานํ ได้แก่ รูปธรรมทั้งหลาย โดย
พิเศษแล้วก็คือ รูปาวจรธรรมทั้งหมด แยกประเภทเป็นกุศลวิบาก และกิริยา
พร้อมด้วยอารมณ์ทั้งหลาย. บทว่า อรุปฺปํ ได้แก่ รปาวจรฌาน แต่อาจารย์

บางพวกกล่าวเนื้อความของบทว่า กามานํ ไว้ว่า ได้แก่ กามาวจรธรรม
ทั้งหมด และกล่าวเนื้อความของบทว่า เนกขัมมะ ว่าได้แก่รูปาวจรฌานทั้ง 5.
คำนั้นไม่มีในอรรถกถาทั้งหลาย และไม่ถูกด้วย. บทว่า ภูตํ แปลว่าเกิดแล้ว.
บทว่า สงฺขตํ ความว่า ที่ปัจจัยทั้งหลายจัดแจง คือ ปรุงแต่ง ทำแล้ว.
บทว่า ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ความว่า เกิดขึ้นจากเหตุ. ด้วยบทแม้ทั้ง 3 ย่อม
ครอบคลุมไปถึงธรรมที่เป็นไปในภูมิ 3 โดยไม่เหลือ. พระนิพพาน ชื่อว่า
นิโรธ. ก็ในที่นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสการกำหนดรู้กามไว้ด้วยธาตุแรก การ-
กำหนดรู้รูปด้วยธาตุที่ 2 การกำหนดรู้ธรรมที่ปัจจัยปรุงแต่งทั้งหมดด้วยธาตุ
ที่ 3 จึงเป็นอันตรัสการก้าวล่วงภพไว้ครบถ้วน.
พึงทราบวินิจฉัยในคาถาทั้งหลาย ดังต่อไปนี้ บทว่า กามนิสฺสรณํ
ญตฺวา
ความว่า รู้ว่า นี้เป็นการสลัดออกจากกาม และการสลัดออกจากกาม
มีโดยอาการอย่างนี้. ชื่อว่า อติกฺกโม เพราะเป็นเหตุก้าวล่วงคืออุบายแห่ง
การก้าวล่วง. รู้เหตุก้าวล่วงนั้น คืออรูป. ธรรมชื่อว่า สัพพสังขารสมถะ
เพราะเป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งมวล ได้แก่พระนิพพาน. เห็นอยู่ซึ่งพระ-
นิพพานนั้น. คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วในหนหลังนั่นเอง.
จบอรรถกถานิสสรณสูตรที่ 3

4. รูปสูตร


ว่าด้วยอรูปละเอียดกว่ารูป


[251] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้
สดับมาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อรูปละเอียดกว่ารูป นิโรธละเอียดกว่า
อรูป.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
สัตว์เหล่าใดเข้าถึงรูปภพ และสัตว์
เหล่าใดดำรงอยู่ในอรูปภพ สัตว์เหล่านั้น
ไม่รู้ชัดซึ่งนิโรธเป็นผู้ยังต้องกลับมาสู่ภพ-
ใหม่ ส่วนชนเหล่าใด กำหนดรู้รูปภพแล้ว
ไม่ดำรงอยู่ในอรูปภพชนเหล่านั้นย่อม
น้อมไปในนิโรธ เป็นผู้ละมัจจุเสียได้
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้หาอาสวะมิได้
ถูกต้องอมตธาตุ อันไม่มีอุปธิด้วยนามกาย
แล้ว กระทำให้แจ้งซึ่งการสละคืนอุปธิ
ย่อมแสดงบทอันไม่มีความโศก ปราศจาก
ธุลี.

เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.
จบรูปสูตรที่ 4