เมนู

นาฬาคิริเปสนํ

[342] เตน โข ปน สมเยน ราชคเห นาฬาคิริ นาม หตฺถี จณฺโฑ โหติ, มนุสฺสฆาตโกฯ อถ โข เทวทตฺโต ราชคหํ ปวิสิตฺวา หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา หตฺถิภณฺเฑ เอตทโวจ – ‘‘มยํ โข, ภเณ, ราชญาตกา นาม ปฏิพลา นีจฏฺฐานิยํ อุจฺจฏฺฐาเน ฐเปตุํ, ภตฺตมฺปิ เวตนมฺปิ วฑฺฒาเปตุํฯ เตน หิ, ภเณ, ยทา สมโณ โคตโม อิมํ รจฺฉํ ปฏิปนฺโน โหติ, ตทา อิมํ นาฬาคิริํ หตฺถิํ มุญฺเจตฺวา อิมํ รจฺฉํ ปฏิปาเทถา’’ติฯ ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ โข เต หตฺถิภณฺฑา เทวทตฺตสฺส ปจฺจสฺโสสุํฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สมฺพหุเลหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ราชคหํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อถ โข ภควา ตํ รจฺฉํ ปฏิปชฺชิฯ อทฺทสาสุํ โข เต หตฺถิภณฺฑา ภควนฺตํ ตํ รจฺฉํ ปฏิปนฺนํฯ ทิสฺวาน นาฬาคิริํ หตฺถิํ มุญฺจิตฺวา ตํ รจฺฉํ ปฏิปาเทสุํฯ อทฺทสา โข นาฬาคิริ หตฺถี ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน โสณฺฑํ อุสฺสาเปตฺวา ปหฏฺฐกณฺณวาโล เยน ภควา เตน อภิธาวิฯ อทฺทสาสุํ โข เต ภิกฺขู นาฬาคิริํ หตฺถิํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, นาฬาคิริ หตฺถี จณฺโฑ มนุสฺสฆาตโก อิมํ รจฺฉํ ปฏิปนฺโนฯ ปฏิกฺกมตุ, ภนฺเต, ภควา; ปฏิกฺกมตุ สุคโต’’ติฯ ‘‘อาคจฺฉถ, ภิกฺขเว, มา ภายิตฺถฯ อฏฺฐานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ปรูปกฺกเมน ตถาคตํ ชีวิตา โวโรเปยฺยฯ อนุปกฺกเมน, ภิกฺขเว, ตถาคตา ปรินิพฺพายนฺตี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู…เป.… ตติยมฺปิ โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, นาฬาคิริ หตฺถี จณฺโฑ มนุสฺสฆาตโก อิมํ รจฺฉํ ปฏิปนฺโนฯ ปฏิกฺกมตุ, ภนฺเต, ภควา; ปฏิกฺกมตุ สุคโต’’ติฯ ‘‘อาคจฺฉถ, ภิกฺขเว, มา ภายิตฺถฯ อฏฺฐานเมตํ , ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ ปรูปกฺกเมน ตถาคตํ ชีวิตา โวโรเปยฺยฯ อนุปกฺกเมน, ภิกฺขเว, ตถาคตา ปรินิพฺพายนฺตี’’ติฯ

เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ปาสาเทสุปิ หมฺมิเยสุปิ ฉทเนสุปิ อารุฬฺหา อจฺฉนฺติฯ ตตฺถ เย เต มนุสฺสา อสฺสทฺธา อปฺปสนฺนา ทุพฺพุทฺธิโน, เต เอวมาหํสุ – ‘‘อภิรูโป วต, โภ [อภิรูโป วต โภ โคตโม (สฺยา. กํ.)], มหาสมโณ นาเคน วิเหฐียิสฺสตี’’ติฯ เย ปน เต มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา ปณฺฑิตา พฺยตฺตา พุทฺธิมนฺโต, เต เอวมาหํสุ – ‘‘นจิรสฺสํ วต, โภ, นาโค นาเคน สงฺคาเมสฺสตี’’ติฯ อถ โข ภควา นาฬาคิริํ หตฺถิํ เมตฺเตน จิตฺเตน ผริฯ อถ โข นาฬาคิริ หตฺถี ภควโต [ภควตา (สี.)] เมตฺเตน จิตฺเตน ผุฏฺโฐ [ผุโฏ (ก.)] โสณฺฑํ โอโรเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปุรโต อฏฺฐาสิฯ อถ โข ภควา ทกฺขิเณน หตฺเถน นาฬาคิริสฺส หตฺถิสฺส กุมฺภํ ปรามสนฺโต นาฬาคิริํ หตฺถิํ อิมาหิ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

‘‘มา กุญฺชร นาคมาสโท, ทุกฺขญฺหิ กุญฺชร นาคมาสโท;

น หิ นาคหตสฺส กุญฺชร สุคติ, โหติ อิโต ปรํ ยโตฯ

‘‘มา จ มโท มา จ ปมาโท, น หิ ปมตฺตา สุคติํ วชนฺติ เต;

ตฺวญฺเญว ตถา กริสฺสสิ, เยน ตฺวํ สุคติํ คมิสฺสสี’’ติฯ

อถ โข นาฬาคิริ หตฺถี โสณฺฑาย ภควโต ปาทปํสูนิ คเหตฺวา อุปริมุทฺธนิ อากิริตฺวา ปฏิกุฏิโยว [ปฏิกุฏิโต ปฏิสกฺกิ (สี. สฺยา.)] โอสกฺกิ, ยาว ภควนฺตํ อทฺทกฺขิฯ อถ โข นาฬาคิริ หตฺถี หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา สเก ฐาเน อฏฺฐาสิฯ ตถา ทนฺโต จ ปน นาฬาคิริ หตฺถี อโหสิฯ เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา อิมํ คาถํ คายนฺติ –

[ม. นิ. 2.352; เถรคา. 878] ‘‘ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ, องฺกุเสหิ กสาหิ จ;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, นาโค ทนฺโต มเหสินา’’ติฯ

มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘ยาว ปาโป อยํ เทวทตฺโต, อลกฺขิโก, ยตฺร หิ นาม สมณสฺส โคตมสฺส เอวํมหิทฺธิกสฺส เอวํ มหานุภาวสฺส วธาย ปรกฺกมิสฺสตี’’ติฯ เทวทตฺตสฺส ลาภสกฺกาโร ปริหายิฯ ภควโต จ ลาภสกฺกาโร อภิวฑฺฒิฯ