เมนู

กาลญฺจ สามเณรญฺจ, สิกฺขาปจฺจกฺขอนฺติมํ;

อุมฺมตฺตขิตฺตจิตฺตา จ, เวทนาปตฺติทสฺสนาฯ

อปฺปฏิกมฺมทิฏฺฐิยา, ปณฺฑกา เถยฺยติตฺถิยา;

ติรจฺฉานมาตุปิตุ, อรหนฺตา จ ทูสกาฯ

เภทกา โลหิตุปฺปาทา, อุภโต จาปิ พฺยญฺชนกา;

มา สงฺฆสฺส ปริหายิ, กมฺมํ อญฺญสฺส ทาตเวฯ

วิปฺปกเต จ อญฺญสฺส, กเต ตสฺเสว ปกฺกเม;

วิพฺภมติ กาลงฺกโต, สามเณโร จ ชายติฯ

ปจฺจกฺขาโต จ สิกฺขาย, อนฺติมชฺฌาปนฺนโก ยทิ;

สงฺโฆว สามิโก โหติ, อุมฺมตฺตขิตฺตเวทนาฯ

อทสฺสนาปฺปฏิกมฺเม, ทิฏฺฐิ ตสฺเสว โหติ ตํ;

ปณฺฑโก เถยฺยติตฺถี จ, ติรจฺฉานมาตุเปตฺติกํฯ

ฆาตโก ทูสโก จาปิ, เภทโลหิตพฺยญฺชนา;

ปฏิชานาติ ยทิ โส, สงฺโฆว โหติ สามิโกฯ

หรนฺตญฺญตฺร กุกฺกุจฺจํ, อุนฺทฺริยติ จ กมฺพลํ;

ทุสฺสญฺจ จมฺมจกฺกลี, โจฬกํ อกฺกมนฺติ จฯ

อลฺลา อุปาหนานิฏฺฐุ, ลิขนฺติ อปสฺเสนฺติ จ;

อปสฺเสนํ ลิขเตว, โธตปจฺจตฺถเรน จฯ

ราชคเห น สกฺโกนฺติ, ลามกํ ภตฺตุทฺเทสกํ;

กถํ นุ โข ปญฺญาปกํ, ภณฺฑาคาริกสมฺมุติฯ

ปฏิคฺคาหภาชโก จาปิ, ยาคุ จ ผลภาชโก;

ขชฺชกภาชโก เจว, อปฺปมตฺตกวิสฺสชฺเชฯ

สาฏิยคฺคาหาปโก เจว, ตเถว ปตฺตคฺคาหโก;

อารามิกสามเณร, เปสกสฺส จ สมฺมุติฯ

สพฺพาภิภู โลกวิทู, หิตจิตฺโต วินายโก;

เลณตฺถญฺจ สุขตฺถญฺจ, ฌายิตุญฺจ วิปสฺสิตุนฺติฯ

เสนาสนกฺขนฺธกํ นิฏฺฐิตํฯ

7. สงฺฆเภทกกฺขนฺธกํ

1. ปฐมภาณวาโร

ฉสกฺยปพฺพชฺชากถา

[330] เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา อนุปิยายํ วิหรติ, อนุปิยํ นาม มลฺลานํ นิคโมฯ เตน โข ปน สมเยน อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา สกฺยกุมารา ภควนฺตํ ปพฺพชิตํ อนุปพฺพชนฺติฯ เตน โข ปน สมเยน มหานาโม จ สกฺโก อนุรุทฺโธ จ สกฺโก ทฺเวภาติกา โหนฺติฯ อนุรุทฺโธ สกฺโก สุขุมาโล โหติฯ ตสฺส ตโย ปาสาทา โหนฺติ – เอโก เหมนฺติโก, เอโก คิมฺหิโก, เอโก วสฺสิโกฯ โส วสฺสิเก ปาสาเท จตฺตาโร มาเส [วสฺสิเก ปาสาเท วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส (สี.)] นิปฺปุริเสหิ ตูริเยหิ ปริจารยมาโน [ปริจาริยมาโน (ก.)] น เหฏฺฐาปาสาทํ โอโรหติฯ อถ โข มหานามสฺส สกฺกสฺส เอตทโหสิ – ‘‘เอตรหิ โข อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา สกฺยกุมารา ภควนฺตํ ปพฺพชิตํ อนุปพฺพชนฺติฯ อมฺหากญฺจ ปน กุลา นตฺถิ โกจิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโตฯ ยํนูนาหํ วา ปพฺพเชยฺยํ, อนุรุทฺโธ วา’’ติฯ อถ โข มหานาโม สกฺโก เยน อนุรุทฺโธ สกฺโก เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อนุรุทฺธํ สกฺกํ เอตทโวจ – ‘‘เอตรหิ, ตาต อนุรุทฺธ, อภิญฺญาตา อภิญฺญาตา สกฺยกุมารา ภควนฺตํ ปพฺพชิตํ อนุปพฺพชนฺติฯ อมฺหากญฺจ ปน กุลา นตฺถิ โกจิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโตฯ เตน หิ ตฺวํ วา ปพฺพช, อหํ วา ปพฺพชิสฺสามี’’ติฯ ‘‘อหํ โข สุขุมาโล, นาหํ สกฺโกมิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํฯ ตฺวํ ปพฺพชาหี’’ติฯ ‘‘เอหิ โข เต, ตาต อนุรุทฺธ, ฆราวาสตฺถํ อนุสาสิสฺสามิฯ ปฐมํ เขตฺตํ กสาเปตพฺพํฯ กสาเปตฺวา วปาเปตพฺพํฯ วปาเปตฺวา อุทกํ อภิเนตพฺพํฯ อุทกํ อภิเนตฺวา อุทกํ นินฺเนตพฺพํฯ อุทกํ นินฺเนตฺวา นิทฺธาเปตพฺพํฯ นิทฺธาเปตฺวา [นิฑฺฑเหตพฺพํ, นิฑฺฑเหตฺวา (สี.)] ลวาเปตพฺพํฯ ลวาเปตฺวา อุพฺพาหาเปตพฺพํฯ อุพฺพาหาเปตฺวา ปุญฺชํ การาเปตพฺพํฯ ปุญฺชํ การาเปตฺวา มทฺทาเปตพฺพํฯ มทฺทาเปตฺวา ปลาลานิ อุทฺธราเปตพฺพานิฯ ปลาลานิ อุทฺธราเปตฺวา ภุสิกา อุทฺธราเปตพฺพาฯ ภุสิกํ อุทฺธราเปตฺวา โอปุนาเปตพฺพํ [โอผุนาเปตพฺพํ (สฺยา. ก.), โอผุณาเปตพฺพํ (โยชนา)]ฯ โอปุนาเปตฺวา อติหราเปตพฺพํฯ

อติหราเปตฺวา อายติมฺปิ วสฺสํ เอวเมว กาตพฺพํ, อายติมฺปิ วสฺสํ เอวเมว กาตพฺพ’’นฺติฯ ‘‘น กมฺมา ขียนฺติ? น กมฺมานํ อนฺโต ปญฺญายติ? กทา กมฺมา ขียิสฺสนฺติ? กทา กมฺมานํ อนฺโต ปญฺญายิสฺสติ? กทา มยํ อปฺโปสฺสุกฺกา ปญฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิตา สมงฺคีภูตา ปริจาเรสฺสามา’’ติ? ‘‘น หิ, ตาต อนุรุทฺธ, กมฺมา ขียนฺติฯ น กมฺมานํ อนฺโต ปญฺญายติฯ อขีเณว กมฺเม ปิตโร จ ปิตามหา จ กาลงฺกตา’’ติฯ ‘‘เตน หิ ตฺวญฺเญว ฆราวาสตฺเถน อุปชานาหิฯ อหํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติฯ

อถ โข อนุรุทฺโธ สกฺโก เยน มาตา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา มาตรํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, อมฺม, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํฯ อนุชานาหิ มํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติฯ เอวํ วุตฺเต อนุรุทฺธสฺส สกฺกสฺส มาตา อนุรุทฺธํ สกฺกํ เอตทโวจ – ‘‘ตุมฺเห โข เม, ตาต อนุรุทฺธ, ทฺเว ปุตฺตา ปิยา มนาปา อปฺปฏิกูลาฯ มรเณนปิ โว อกามกา วินา ภวิสฺสามิฯ กิํ ปนาหํ ตุมฺเห ชีวนฺเต อนุชานิสฺสามิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ? ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข อนุรุทฺโธ สกฺโก มาตรํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, อมฺม, อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุํฯ อนุชานาหิ มํ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ [อิมสฺส อนนฺตรํ เกสุจิ โปตฺถเกสุ เอวมฺปิ ปาโฐ ทิสฺสติ –- ‘‘เอวํ วุตฺเต อนุรุทฺธสฺส สกฺกสฺส มาตา เอวมาห ‘สเจ ตาต อนุรุทฺธ ภทฺทิโย สกฺยราชา สกฺยานํ รชฺชํ กาเรติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, เอวํ ตฺวมฺปิ ปพฺพชาหี’’’ติ]ฯ เตน โข ปน สมเยน ภทฺทิโย สกฺยราชา สกฺยานํ รชฺชํ กาเรติฯ โส จ อนุรุทฺธสฺส สกฺกสฺส สหาโย โหติฯ อถ โข อนุรุทฺธสฺส สกฺกสฺส มาตา – ‘อยํ โข ภทฺทิโย สกฺยราชา สกฺยานํ รชฺชํ กาเรติ; อนุรุทฺธสฺส สกฺกสฺส สหาโย; โส น อุสฺสหติ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุ’นฺติ – อนุรุทฺธํ สกฺกํ เอตทโวจ – ‘‘สเจ, ตาต อนุรุทฺธ, ภทฺทิโย สกฺยราชา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, เอวํ ตฺวมฺปิ ปพฺพชาหี’’ติฯ อถ โข อนุรุทฺโธ สกฺโก เยน ภทฺทิโย สกฺยราชา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภทฺทิยํ สกฺยราชานํ เอตทโวจ – ‘‘มม โข, สมฺม, ปพฺพชฺชา ตว ปฏิพทฺธา’’ติฯ ‘‘สเจ เต, สมฺม, ปพฺพชฺชา มม ปฏิพทฺธา วา อปฺปฏิพทฺธา วา สา โหตุ, อหํ ตยา; ยถา สุขํ ปพฺพชาหี’’ติฯ ‘‘เอหิ, สมฺม, อุโภ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติฯ ‘‘นาหํ, สมฺม, สกฺโกมิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตุนฺติ

ยํ เต สกฺกา อญฺญํ มยา กาตุํ, กฺยาหํ [ตฺยาหํ (สี. สฺยา.)] กริสฺสามิฯ ตฺวํ ปพฺพชาหี’’ติฯ ‘‘มาตา โข มํ, สมฺม, เอวมาห – ‘สเจ, ตาต อนุรุทฺธ, ภทฺทิโย สกฺยราชา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ, เอวํ ตฺวมฺปิ ปพฺพชาหี’’’ติฯ ‘‘ภาสิตา โข ปน เต, สมฺม, เอสา วาจาฯ สเจ เต, สมฺม, ปพฺพชฺชา มม ปฏิพทฺธา วา, อปฺปฏิพทฺธา วา สา โหตุ, อหํ ตยา; ยถา สุขํ ปพฺพชาหี’’ติฯ ‘‘เอหิ, สมฺม, อุโภ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติฯ

เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา สจฺจวาทิโน โหนฺติ, สจฺจปฏิญฺญาฯ อถ โข ภทฺทิโย สกฺยราชา อนุรุทฺธํ สกฺกํ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมหิ, สมฺม, สตฺตวสฺสานิฯ สตฺตนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อุโภ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติฯ ‘‘อติจิรํ, สมฺม, สตฺตวสฺสานิฯ นาหํ สกฺโกมิ สตฺตวสฺสานิ อาคเมตุ’’นฺติฯ ‘‘อาคเมหิ, สมฺม, ฉวสฺสานิ…เป.… ปญฺจวสฺสานิ… จตฺตาริ วสฺสานิ… ตีณิ วสฺสานิ… ทฺเว วสฺสานิ… เอกํ วสฺสํฯ เอกสฺส วสฺสสฺส อจฺจเยน อุโภ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติฯ ‘‘อติจิรํ, สมฺม, เอกวสฺสํฯ นาหํ สกฺโกมิ เอกํ วสฺสํ อาคเมตุ’’นฺติฯ ‘‘อาคเมหิ, สมฺม, สตฺตมาเสฯ สตฺตนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อุโภปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติฯ ‘‘อติจิรํ, สมฺม, สตฺตมาสาฯ นาหํ สกฺโกมิ สตฺตมาเส อาคเมตุ’’นฺติฯ ‘‘อาคเมหิ, สมฺม, ฉ มาเส…เป.… ปญฺจ มาเส… จตฺตาโร มาเส… ตโย มาเส… ทฺเว มาเส… เอกํ มาสํ… อฑฺฒมาสํฯ อฑฺฒมาสสฺส อจฺจเยน อุโภปิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติฯ ‘‘อติจิรํ, สมฺม, อฑฺฒมาโสฯ นาหํ สกฺโกมิ อฑฺฒมาสํ อาคเมตุ’’นฺติฯ ‘‘อาคเมหิ, สมฺม, สตฺตาหํ ยาวาหํ ปุตฺเต จ ภาตโร จ รชฺชํ นิยฺยาเทมี’’ติฯ ‘‘น จิรํ, สมฺม, สตฺตาโห, อาคเมสฺสามี’’ติฯ

[331] อถ โข ภทฺทิโย จ สกฺยราชา อนุรุทฺโธ จ อานนฺโท จ ภคุ จ กิมิโล จ เทวทตฺโต จ, อุปาลิกปฺปเกน สตฺตมา, ยถา ปุเร จตุรงฺคินิยา เสนาย อุยฺยานภูมิํ นิยฺยนฺติ, เอวเมว จตุรงฺคินิยา เสนาย นิยฺยิํสุฯ เต ทูรํ คนฺตฺวา เสนํ นิวตฺตาเปตฺวา ปรวิสยํ โอกฺกมิตฺวา อาภรณํ โอมุญฺจิตฺวา อุตฺตราสงฺเคน ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา อุปาลิํ กปฺปกํ เอตทโวจุํ – ‘‘หนฺท, ภเณ อุปาลิ, นิวตฺตสฺสุ; อลํ เต เอตฺตกํ ชีวิกายา’’ติฯ อถ โข อุปาลิสฺส กปฺปกสฺส นิวตฺตนฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘จณฺฑา โข สากิยา; อิมินา กุมารา นิปฺปาติตาติ ฆาตาเปยฺยุมฺปิ มํฯ

อิเม หิ นาม สกฺยกุมารา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสนฺติฯ กิมงฺค [กิมงฺค (สี.)] ปนาห’’นฺติฯ ภณฺฑิกํ มุญฺจิตฺวา ตํ ภณฺฑํ รุกฺเข อาลคฺเคตฺวา ‘โย ปสฺสติ, ทินฺนํเยว หรตู’ติ วตฺวา เยน เต สกฺยกุมารา เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสาสุํ โข เต สกฺยกุมารา อุปาลิํ กปฺปกํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน อุปาลิํ กปฺปกํ เอตทโวจุํ – ‘‘กิสฺส, ภเณ อุปาลิ, นิวตฺเตสี’’ติ? ‘‘อิธ เม, อยฺยปุตฺตา, นิวตฺตนฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘จณฺฑา โข สากิยา; อิมินา กุมารา นิปฺปาติตาติ ฆาตาเปยฺยุมฺปิ มํฯ อิเม หิ นาม สกฺยกุมารา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสนฺติฯ กิมงฺค ปนาห’นฺติฯ โส โข อหํ, อยฺยปุตฺตา, ภณฺฑิกํ มุญฺจิตฺวา ตํ ภณฺฑํ รุกฺเข อาลคฺเคตฺวา ‘โย ปสฺสติ, ทินฺนญฺเญว หรตู’ติ วตฺวา ตโตมฺหิ ปฏินิวตฺโต’’ติฯ ‘‘สุฏฺฐุ, ภเณ อุปาลิ, อกาสิ ยมฺปิ น นิวตฺโต [ยํ นิวตฺโต (สี.), ยํ ปน นิวตฺโต (สฺยา.)]ฯ จณฺฑา โข สากิยา; อิมินา กุมารา นิปฺปาติตาติ ฆาตาเปยฺยุมฺปิ ต’’นฺติฯ

อถ โข สกฺยกุมารา อุปาลิํ กปฺปกํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต สกฺยกุมารา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘มยํ, ภนฺเต, สากิยา นาม มานสฺสิโนฯ อยํ , ภนฺเต, อุปาลิ กปฺปโก อมฺหากํ ทีฆรตฺตํ ปริจารโกฯ อิมํ ภควา ปฐมํ ปพฺพาเชตุฯ อิมสฺส มยํ อภิวาทนปจฺจุฏฺฐานอญฺชลิกมฺมสามีจิกมฺมํ กริสฺสามฯ เอวํ อมฺหากํ สากิยานํ สากิยมาโน นิมฺมานายิสฺสตี’’ติ [นิมฺมาทยิสฺสตีติ (สี.), นิมฺมานิยิสฺสตีติ (สฺยา.)]

อถ โข ภควา อุปาลิํ กปฺปกํ ปฐมํ ปพฺพาเชสิ, ปจฺฉา เต สกฺยกุมาเรฯ อถ โข อายสฺมา ภทฺทิโย เตเนว อนฺตรวสฺเสน ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉากาสิฯ อายสฺมา อนุรุทฺโธ ทิพฺพจกฺขุํ อุปฺปาเทสิฯ อายสฺมา อานนฺโท โสตาปตฺติผลํ สจฺฉากาสิฯ เทวทตฺโต โปถุชฺชนิกํ อิทฺธิํ อภินิปฺผาเทสิฯ

[332] เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ภทฺทิโย อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘‘อโห สุขํ, อโห สุข’’นฺติฯ อถ โข สมฺพหุลา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ

เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อายสฺมา, ภนฺเต, ภทฺทิโย อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’นฺติฯ นิสฺสํสยํ โข, ภนฺเต, อายสฺมา ภทฺทิโย อนภิรโตว พฺรหฺมจริยํ จรติฯ ตํเยว วา ปุริมํ รชฺชสุขํ สมนุสฺสรนฺโต อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติฯ

อถ โข ภควา อญฺญตรํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน ภทฺทิยํ ภิกฺขุํ อามนฺเตหิ – ‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ภทฺทิย, อามนฺเตตี’’’ติ ฯ ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุตฺวา เยนายสฺมา ภทฺทิโย เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ ภทฺทิยํ เอตทโวจ – ‘‘สตฺถา ตํ, อาวุโส ภทฺทิย, อามนฺเตตี’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา ภทฺทิโย ตสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ภทฺทิยํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภทฺทิย, อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติ? ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, ภทฺทิย, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนสิ – ‘อโห สุขํ อโห สุข’’’นฺติ? ‘‘ปุพฺเพ เม, ภนฺเต, รญฺโญ สโตปิ อนฺโตปิ อนฺเตปุเร รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, พหิปิ อนฺเตปุเร รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, อนฺโตปิ นคเร รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, พหิปิ นคเร รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, อนฺโตปิ ชนปเท รกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, พหิปิ ชนปเท รกฺขา สุสํวิหิตา โหติฯ โส โข อหํ, ภนฺเต, เอวํ รกฺขิโตปิ โคปิโตปิ สนฺโต ภีโต อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกี อุตฺรสฺโต วิหรามิฯ เอตรหิ โข ปน อหํ เอโก, ภนฺเต, อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภีโต อนุพฺพิคฺโค อนุสฺสงฺกี อนุตฺรสฺโต อปฺโปสฺสุกฺโก ปนฺนโลโม ปรทตฺตวุตฺโต มิคภูเตน เจตสา วิหรามีติฯ อิมํ โข อหํ, ภนฺเต, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมาโน อรญฺญคโตปิ รุกฺขมูลคโตปิ สุญฺญาคารคโตปิ อภิกฺขณํ อุทานํ อุทาเนมิ – ‘อโห สุขํ, อโห สุข’’’นฺติฯ อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –