เมนู

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู นิสฺสีเม ฐิตสฺส เสนาสนํ คาเหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, นิสฺสีเม ฐิตสฺส เสนาสนํ คาเหตพฺพํฯ โย คาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติฯ

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู เสนาสนํ คเหตฺวา สพฺพกาลํ ปฏิพาหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, เสนาสนํ คเหตฺวา สพฺพกาลํ ปฏิพาเหตพฺพํฯ โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสฺสานํ เตมาสํ ปฏิพาหิตุํ, อุตุกาลํ ปน น ปฏิพาหิตุ’’นฺติฯ

อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กติ นุ โข เสนาสนคฺคาหา’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘ตโย เม, ภิกฺขเว, เสนาสนคฺคาหา – ปุริมโก, ปจฺฉิมโก, อนฺตรามุตฺตโกฯ อปรชฺชุคตาย อาสาฬฺหิยา ปุริมโก คาเหตพฺโพฯ มาสคตาย อาสาฬฺหิยา ปจฺฉิมโก คาเหตพฺโพฯ อปรชฺชุคตาย ปวารณาย อายติํ วสฺสาวาสตฺถาย อนฺตรามุตฺตโก คาเหตพฺโพฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, ตโย เสนาสนคฺคาหา’’ติฯ

ทุติยภาณวาโร นิฏฺฐิโตฯ

3. ตติยภาณวาโร

[319] เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต สาวตฺถิยํ เสนาสนํ คเหตฺวา อญฺญตรํ คามกาวาสํ อคมาสิฯ ตตฺถปิ เสนาสนํ อคฺคเหสิฯ อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อยํ, อาวุโส, อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต ภณฺฑนการโก กลหการโก วิวาทการโก ภสฺสการโก สงฺเฆ อธิกรณการโกฯ สจายํ อิธ วสฺสํ วสิสฺสติ, สพฺเพว มยํ น ผาสุ ภวิสฺสามฯ หนฺท นํ ปุจฺฉามา’’ติฯ อถ โข เต ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘นนุ ตยา, อาวุโส อุปนนฺท, สาวตฺถิยํ เสนาสนํ คหิต’’นฺติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, อาวุโส อุปนนฺท, เอโก ทฺเว ปฏิพาหสี’’ติ? ‘‘อิธทานาหํ อาวุโส, มุญฺจามิ; ตตฺถ คณฺหามี’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อายสฺมา อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต เอโก ทฺเว ปฏิพาเหสฺสตี’’ติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, อุปนนฺท, เอโก ทฺเว ปฏิพาหสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติฯ วิครหิ พุทฺโธ ภควา…เป.… ‘‘กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, เอโก ทฺเว ปฏิพาหิสฺสสิ? ตตฺถ ตยา, โมฆปุริส, คหิตํ อิธ มุตฺตํ, อิธ ตยา คหิตํ ตตฺร มุตฺตํฯ เอวํ โข ตฺวํ, โมฆปุริส, อุภยตฺถ ปริพาหิโรฯ เนตํ, โมฆปุริส, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, เอเกน ทฺเว ปฏิพาเหตพฺพาฯ โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติฯ

[320] [ปาจิ. 438] เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขูนํ อเนกปริยาเยน วินยกถํ กเถติ, วินยสฺส วณฺณํ ภาสติ, วินยปริยตฺติยา วณฺณํ ภาสติ, อาทิสฺส อาทิสฺส อายสฺมโต อุปาลิสฺส วณฺณํ ภาสติฯ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ภควา โข อเนกปริยาเยน วินยกถํ กเถติ, วินยสฺส วณฺณํ ภาสติ, วินยปริยตฺติยา วณฺณํ ภาสติ, อาทิสฺส อาทิสฺส อายสฺมโต อุปาลิสฺส วณฺณํ ภาสติฯ หนฺท มยํ, อาวุโส, อายสฺมโต อุปาลิสฺส สนฺติเก วินยํ ปริยาปุณามา’’ติฯ เตธ [เต จ (สฺยา. ก.)] พหู ภิกฺขู เถรา จ นวา จ มชฺฌิมา จ อายสฺมโต อุปาลิสฺส สนฺติเก วินยํ ปริยาปุณนฺติฯ อายสฺมา อุปาลิ ฐิตโกว อุทฺทิสติ เถรานํ ภิกฺขูนํ คารเวนฯ เถราปิ ภิกฺขู ฐิตกาว อุทฺทิสาเปนฺติ ธมฺมคารเวนฯ ตตฺถ เถรา เจว ภิกฺขู กิลมนฺติ, อายสฺมา จ อุปาลิ กิลมติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นวเกน ภิกฺขุนา อุทฺทิสนฺเตน สมเก วา อาสเน นิสีทิตุํ, อุจฺจตเร วา ธมฺมคารเวน; เถเรน ภิกฺขุนา อุทฺทิสาเปนฺเตน สมเก วา อาสเน นิสีทิตุํ, นีจตเร วา ธมฺมคารเวนา’’ติฯ

เตน โข ปน สมเยน พหู ภิกฺขู อายสฺมโต อุปาลิสฺส สนฺติเก ฐิตกา อุทฺเทสํ ปฏิมาเนนฺตา กิลมนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สมานาสนิเกหิ สห นิสีทิตุ’’นฺติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข สมานาสนิโก โหตี’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติวสฺสนฺตเรน สห นิสีทิตุ’’นฺติฯ

เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู สมานาสนิกา มญฺเจ [เอกมญฺเจ (สฺยา.)] นิสีทิตฺวา มญฺจํ ภินฺทิํสุ, ปีเฐ [เอกปีเฐ (สฺยา.)] นิสีทิตฺวา ปีฐํ ภินฺทิํสุฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติวคฺคสฺส มญฺจํ, ติวคฺคสฺส ปีฐ’’นฺติฯ ติวคฺโคปิ มญฺเจ นิสีทิตฺวา มญฺจํ ภินฺทิ, ปีเฐ นิสีทิตฺวา ปีฐํ ภินฺทิ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุวคฺคสฺส มญฺจํ, ทุวคฺคสฺส ปีฐ’’นฺติฯ

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อสมานาสนิเกหิ สห ทีฆาสเน นิสีทิตุํ กุกฺกุจฺจายนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฐเปตฺวา ปณฺฑกํ, มาตุคามํ, อุภโตพฺยญฺชนกํ, อสมานาสนิเกหิ สห ทีฆาสเน นิสีทิตุ’’นฺติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กิตฺตกํ ปจฺฉิมํ นุ โข ทีฆาสนํ โหตี’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ติณฺณํ ปโหติ, เอตฺตกํ ปจฺฉิมํ ทีฆาสน’’นฺติฯ

เตน โข ปน สมเยน วิสาขา มิคารมาตา สงฺฆสฺส อตฺถาย สาฬินฺทํ ปาสาทํ การาเปตุกามา โหติ หตฺถินขกํฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กิํ นุ โข ภควตา ปาสาทปริโภโค อนุญฺญาโต กิํ อนนุญฺญาโต’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปาสาทปริโภค’’นฺติฯ

เตน โข ปน สมเยน รญฺโญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส อยฺยิกา กาลงฺกตา โหติฯ ตสฺส กาลงฺกิริยาย สงฺฆสฺส พหุํ อกปฺปิยภณฺฑํ อุปฺปนฺนํ โหติ, เสยฺยถิทํ – อาสนฺทิ, ปลฺลงฺโก, โคนโก , จิตฺตโก, ปฏิกา, ปฏลิกา, ตูลิกา, วิกติกา, อุทฺทโลมี, เอกนฺตโลมี, กฏฺฏิสฺสํ, โกเสยฺยํ, กุตฺตกํ, หตฺถตฺถรํ, อสฺสตฺถรํ, รถตฺถรํ, อชินปฺปเวณิ, กทลิมิคปฺปวรปจฺจตฺถรณํ, สอุตฺตรจฺฉทํ, อุภโตโลหิตกูปธานํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาสนฺทิยา ปาเท ฉินฺทิตฺวา ปริภุญฺชิตุํ, ปลฺลงฺกสฺส วาเฬ ภินฺทิตฺวา ปริภุญฺชิตุํ, ตูลิกํ วิชเฏตฺวา พิพฺโพหนํ กาตุํ, อวเสสํ ภูมตฺถรณํ [สุมฺมตฺถรณํ (สี. สฺยา.)] กาตุ’’นฺติฯ