เมนู

ผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขด้วยบัลลังก์อันเดียวตลอด 7 วัน
ครั้งนั้นแล พอล่วงสัปดาห์นั้นไป พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากสมาธิ
นั้น ครั้งนั้นแล พราหมณ์คนหนึ่งผู้มักตวาดผู้อื่นว่า หึ หึ เข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้น
ผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้วได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ บุคคล
ชื่อว่าเป็นพราหมณ์เพราะเหตุเพียงเท่าไรหนอแล และธรรมที่ทำบุคคลให้
เป็นพราหมณ์เป็นไฉน.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรง
เปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
พราหมณ์ใดมีบาปธรรมอันลอยเสียแล้ว ไม่มัก
ตวาดผู้อื่นว่า หึ หึ ไม่มีกิเลสดุจน้ำฝาด มีตนอัน
สำรวมแล้ว ถึงที่สุดแห่งเวท อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว
ไม่มีกิเลสเครื่องฟูขึ้นในโลกไหน ๆ พราหมณ์นั้นควร
กล่าววาทะว่าเป็นพราหมณ์โดยชอบธรรม.

จบอชปาลนิโครธสูตรที่ 4*

อรรถกถาอชปาลนิโครธสูตร

1

อชปาลนิโครธสูตรที่ 4 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อชปาลนิโคฺรเธ ความว่า ได้ยินว่า คนเลี้ยงแพะทั้งหลาย
ได้ไปนั่งที่ร่มเงาต้นนิโครธ (ต้นไทร) นั้น เพราะฉะนั้น ต้นนิโครธ
* พม่าเป็น หุํหุยกสูตร.