เมนู

โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาสจึงดับ ความดับแห่งกองทุกข์
ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้.
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรง
เปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ในกาลใดแล ธรรมทั้งหลาย มาปรากฏแก่
พราหมณ์ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ ในกาลนั้น พราหมณ์นั้น
ย่อมกำจัดมารและเสนามารเสียได้ ดุจพระอาทิตย์
กำจัดมืดส่องแสงสว่างอยู่ในอากาศฉะนั้น.

จบตติยโพธิสูตรที่ 3

อรรถกถาตติยโพธิสูตร



ตติยโพธิสูตรที่ 3 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อนุโลมปฏิโลมํ ได้แก่ อนุโลมและปฏิโลม อธิบายว่า
ด้วยสามารถอนุโลมตามที่กล่าวแล้ว และด้วยสามารถปฏิโลม. มีคำถามว่า
ก็ท่านกล่าวความเป็นไปของมนสิการในปฏิจจสมุปบาท ไว้ในสูตรทั้งสอง
โดยอนุโลมและปฏิโลมแม้ในก่อนมิใช่หรือ เพราะเหตุไร ในที่นี้ท่านจึง
กล่าวความเป็นไปของมนสิการด้วยอำนาจสูตรนั้นอีก ? ตอบว่า เพราะ
ประกาศมนสิการไว้ในปฏิจจสมุปบาท ถึงวาระที่ 3 ด้วยอำนาจสูตรทั้งสอง
นั้น. ถามว่า ก็ท่านประกาศมนสิการไว้โดยสูตรทั้งสองอย่างไร เพราะ
ใครๆ ไม่อาจประกาศมนสิการปฏิจจสมุปบาททั้งอนุโลมและปฏิโลม ไม่
ก่อนไม่หลัง ? ตอบว่า ข้อนั้นไม่พึงเห็นอย่างนั้นว่า ทรงมนสิการถึง