เมนู

ฉันใด คำอุปไมยอันยังอุปมาให้ถึงพร้อมนี้ก็ฉันนั้น. ก็ อิธศัพท์ ใน
คาถานั้นพึงทราบว่า ท่านแสดงว่าลบไปแล้ว.

จบอรรถกถาปฐมกิรสูตรที่ 4

5. ทุติยกิรสูตร



ว่าด้วยความเห็นแย้งกัน



[139] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล สมณะ
พราหมณ์ ปริพาชกมากด้วยกัน ผู้มีลัทธิต่าง ๆ กัน มีทิฏฐิต่างกัน มีความ
พอใจต่างกัน มีความชอบใจต่างกัน อาศัยทิฏฐินิสัยต่างกัน อาศัยอยู่ใน
พระนครสาวัตถี สมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า
1. ตนและโลกเที่ยง นี้แหละจริง อื่นเปล่า.
สมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีวาทะต่างอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า
2. ตนและโลกไม่เที่ยง นี้แหละจริง อื่นเปล่า.
สมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า
3. ตนและโลกเที่ยงก็มี ไม่เที่ยงก็มี...
4. ตนและโลกเที่ยงก็มิใช่ ไม่เที่ยงก็มิใช่...
5. ตนและโลกอันตนเองสร้างสรรค์...
6. ตนและโลกอันผู้อื่นสร้างสรรค์...
7. ตนและโลกอันตนเองสร้างสรรค์ก็มี อันผู้อื่นสร้างสรรค์ก็มี...