เมนู

สิ่งทั้งปวงได้มีแล้วในกาลก่อน ไม่มีแล้วในกาล
นั้น สิ่งทั้งปวงไม่มีแล้วในกาลก่อน ได้มีแล้วในกาล
นั้น ไม่มีแล้วจักไม่มี และย่อมไม่มีในบัดนี้.

จบอาหุสูตรที่ 3

อรรถกถาอาหุสูตร



อาหุสูตรที่ 3

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อตฺตโน อเนเก ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเน ความว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพิจารณากิเลส 1005 อันเป็นไปตลอดกาลหา
เบื้องต้นมิได้ ในสันดานของพระองค์ มีโลภะ โทสะ โมหะ วิปริตมนสิการ
อหิริกะ อโนตตัปปะ โกธะ อุปนาหะ มักขะ ปลาสะ อิสสา มัจฉริยะ มายา
สาไถย ถัมภะ สารัมภะ มานะ อติมานะ มทะ ปมาทะ ตัณหา อวิชชา
อกุศลมูล 3 ทุจริต 3 สังกิเลส 3 มลทิน 3 วิสมสัญญา 3 วิตก 3 ปปัญจะ 3
วิปัลลาส 4 อาสวะ 4 โอฆะ 4 โยคะ 4 คัณฐะ 4 ถึงอคติ 4
ตัณหุปาทาน 4 เจโตขีละ 5 เจโตวินิพพันธะ 5 นีวรณ์ 5 อภินันทนะ 5
วิวาทมูล 6 ตัณหากาย 6 อนุสัย 7 มิจฉัตตะ 8 ตัณหามูลกะ 9
อกุศลกรรมบถ 10 ทิฏฐิ 62 และตัณหาวิปริต 108 เป็นต้นเป็น
ประเภทก็ดี ธรรมอันชั่วช้าลามกเป็นอเนก ที่ชื่อว่าเป็นอกุศล เพราะ
อรรถว่าเกิดแต่ความเป็นผู้ไม่ฉลาด แม้ที่เกิดร่วมกับกิเลส 1005 นั้นก็ดี
ที่พระองค์ทรงละแล้ว คือตัดขาดแล้วด้วยอริยมรรค ณ ควงแห่งโพธิ-