เมนู

ความว่า ไม่พึงกล่าวธรรมเพื่อต้องการทรัพย์. เพราะผู้แสดงแก่ชนเหล่า-
อื่น ด้วยเหตุแห่งทรัพย์เป็นต้น ย่อมชื่อว่านำธรรมไปทำการค้า. อย่า
เที่ยวเอาธรรมไปทำการค้าอย่างนั้น. อีกอย่างหนึ่ง บุคคลผู้ทำกรรมมี
การสอดแนมเป็นต้น เหมือนคนของพระเจ้าโกศล ทำการสอดแนมเพื่อ
ประโยชน์แก่ทรัพย์เป็นต้น ดำรงตามกิจมีการสมาทานเพศบรรพชาเป็นต้น
โดยไม่ให้คนอื่นสงสัย ชื่อว่านำธรรมมาทำการค้า. ฝ่ายบุคคลใด แม้
ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์ในศาสนานี้ ก็ประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อ
ปรารถนาเทพนิกายเหล่าใดเหล่าหนึ่ง แม้บุคคลนั้นก็ชื่อว่า นำธรรมมาทำ
การค้า อธิบายว่า ไม่พึงประพฤติ คือไม่พึงกระทำการค้าด้วยธรรม
อย่างนี้.
จบอรรถกถาปฏิสัลลานสูตรที่ 2

3. อาหุสูตร



ว่าด้วยการพิจารณาอกุศลและกุศลธรรม



[135] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่ง ทรงพิจารณาอกุศลบาปธรรมเป็นอันมากที่พระ-
องค์ทรงละได้แล้ว และกุศลธรรมเป็นอันมากที่ถึงความเจริญบริบูรณ์.
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบอกุศลบาปธรรมเป็น
อันมากที่พระองค์ทรงละได้แล้ว และกุศลธรรมเป็นอันมากที่ถึงความเจริญ
บริบูรณ์ จึงทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า

สิ่งทั้งปวงได้มีแล้วในกาลก่อน ไม่มีแล้วในกาล
นั้น สิ่งทั้งปวงไม่มีแล้วในกาลก่อน ได้มีแล้วในกาล
นั้น ไม่มีแล้วจักไม่มี และย่อมไม่มีในบัดนี้.

จบอาหุสูตรที่ 3

อรรถกถาอาหุสูตร



อาหุสูตรที่ 3

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า อตฺตโน อเนเก ปาปเก อกุสเล ธมฺเม ปหีเน ความว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพิจารณากิเลส 1005 อันเป็นไปตลอดกาลหา
เบื้องต้นมิได้ ในสันดานของพระองค์ มีโลภะ โทสะ โมหะ วิปริตมนสิการ
อหิริกะ อโนตตัปปะ โกธะ อุปนาหะ มักขะ ปลาสะ อิสสา มัจฉริยะ มายา
สาไถย ถัมภะ สารัมภะ มานะ อติมานะ มทะ ปมาทะ ตัณหา อวิชชา
อกุศลมูล 3 ทุจริต 3 สังกิเลส 3 มลทิน 3 วิสมสัญญา 3 วิตก 3 ปปัญจะ 3
วิปัลลาส 4 อาสวะ 4 โอฆะ 4 โยคะ 4 คัณฐะ 4 ถึงอคติ 4
ตัณหุปาทาน 4 เจโตขีละ 5 เจโตวินิพพันธะ 5 นีวรณ์ 5 อภินันทนะ 5
วิวาทมูล 6 ตัณหากาย 6 อนุสัย 7 มิจฉัตตะ 8 ตัณหามูลกะ 9
อกุศลกรรมบถ 10 ทิฏฐิ 62 และตัณหาวิปริต 108 เป็นต้นเป็น
ประเภทก็ดี ธรรมอันชั่วช้าลามกเป็นอเนก ที่ชื่อว่าเป็นอกุศล เพราะ
อรรถว่าเกิดแต่ความเป็นผู้ไม่ฉลาด แม้ที่เกิดร่วมกับกิเลส 1005 นั้นก็ดี
ที่พระองค์ทรงละแล้ว คือตัดขาดแล้วด้วยอริยมรรค ณ ควงแห่งโพธิ-