เมนู

ตัณหาได้ ทั้งไม่เพลิดเพลินวิภวตัณหา ความดับด้วย
อริยมรรคเป็นเครื่องสำรอกไม่มีส่วนเหลือ เพราะ
ความสิ้นไปแห่งตัณหาทั้งหลาย โดยประการทั้งปวง
เป็นนิพพาน ภพไม่ย่อมไม่มีแก่ภิกษุนั้น ผู้ดับแล้ว
เพราะไม่ถือมั่น ภิกษุนั้นครอบงำมาร ชนะสงคราม
ล่วงภพได้ทั้งหมดเป็นผู้คงที่ฉะนี้แล.
จบโลกสูตรที่ 10
จบนันทวรรคที่ 3

อรรถกถาโลกสูตร


โลกสูตรที่ 10 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้:-
อาสยานุสยญาณ และอินทริยปโรปริยัตญาณ ชื่อว่า พุทธจักษุ
ในคำว่า พุทฺธจกฺขุนา นี้. สมดังที่ท่านกล่าวคำมีอาทิว่า พระผู้มีพระภาค-
เจ้า เมื่อทรงตรวจดูสัตวโลกด้วยพุทธจักษุได้ทรงเห็นแล้วแล ซึ่งเหล่า
สัตว์ผู้มีกิเลสดุจธุลีในดวงตาน้อย ผู้มีกิเลสดุจฉุลีในดวงตามาก ผู้มีอินทรีย์
แก่กล้า ผู้มีอินทรีย์อ่อน. บทว่า โลกํ ได้แก่ โลก 3 คือ โอกาสโลก 1
สังขารโลก 1 สัตวโลก 1. ในโลกทั้ง 3 นั้น โอกาสโลก ตรัสไว้ใน
ประโยคมีอาทิว่า
พระจันทร์พระอาทิตย์ เวียนรอบส่องทิศให้
สว่างไสวมีประมาณเท่าใด โอกาสโลก มีประมาณ
พันหนึ่งเท่านั้น อำนาจของท่าน เป็นไปในโอกาส
โลกนี้.