เมนู

อรรถกถาปาวาสูตร



ปาวาสูตรที่ 7 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ปาวายํ ได้แก่ ใกล้เมืองของเจ้ามัลละ อันมีชื่ออย่างนั้น.
บทว่า อชกลาปเก เจติเย ได้แก่ ในที่ที่พวกมนุษย์ยำเกรง อันได้นาม
ว่าอชกลาปกะ เพราะยักษ์ชื่อว่าอชกลาปกะยึดครอง. ได้ยินว่า ยักษ์นั้น
รับพลีกรรมด้วยโกฏฐาสแห่งแพะ โดยการมัดแพะให้เป็นกลุ่ม ๆ หาใช่
รับโดยประการอื่นไม่ เพราะฉะนั้น จึงปรากฏชื่อว่าอชกลาปกยักษ์.
แต่อาจารย์บางพวกกล่าวว่า ชื่อว่าอชกลาปกยักษ์ เพราะยังพวกคนให้
ร้องเหมือนแพะ ได้ยินว่า ในเวลาที่พวกคนน้อมนำพลีกรรมไปให้แก่
อชกลาปกยักษ์ ร้องเสียงเหมือนแพะแล้วนำพลีกรรมเข้าไป ยักษ์นั้นก็
ยินดี เพราะฉะนั้น เขาจึงเรียกว่าอชกลาปกยักษ์. ก็ยักษ์นั้นสมบูรณ์ด้วย
อานุภาพ กักขฬะ หยาบคาย และสิงอยู่ที่นั้น เพราะฉะนั้น พวกมนุษย์
จึงทำที่นั้นให้เป็นที่เคารพยำเกรง น้อมนำพลีกรรมเข้าไปตลอดกาล.
เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า อชกลาปเก เจติเย. บทว่า อชกลาปกสฺส
ยกฺขสฺส ภวเน
ได้แก่ อันเป็นวิมานของยักษ์นั้น
ได้ยินว่า ในคราวนั้น พระศาสดาประสงค์จะทรมานยักษ์นั้น ใน
เวลาเย็น พระองค์เดียวไม่มีเพื่อนสอง ทรงถือบาตรและจีวรแล้วเสด็จ
ไปยังประตูที่อยู่ของอชกลาปกยักษ์ จึงขอร้องนายประตูของยักษ์นั้น เพื่อ
เสด็จเข้าไปยังที่อยู่. นายประตูนั้นทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อชกลาปก-
ยักษ์ผู้หยาบช้า ไม่ทำความเคารพว่าเป็นสมณะหรือพราหมณ์เพราะฉะนั้น
พระองค์เองจงทราบเอาเถิด แต่ข้าพระองค์ไม่บอกแก่ยักษ์นั้นไม่สมควร
แล้วจึงรีบไปยังที่อยู่ของอชกลาปกยักษ์ผู้ไปสมาคมยักษ์ในขณะนั้นนั่นเอง.