เมนู

" บุคคลควรให้ไทยธรรมในบุคคลไหน ? ไทย-
ธรรมวัตถุอันบุคคลให้ในบุคคลไหน จึงมีผลมาก ?
ทักษิณาของบุคคลผู้บูชาอยู่อย่างไรเล่า ? จะสำเร็จ
ได้อย่างไร ?"

พระศาสดาทรงแก้ปัญหาของพราหมณ์


ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสว่า " ไทยธรรมวัตถุ ที่บุคคลให้แล้ว
แก่พราหมณ์ผู้เช่นนี้ ย่อมมีผลมาก" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงประกาศบุคคล
ผู้เป็นพราหมณ์แก่พราหมณ์นั้น จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
3. ปุพฺเพนิวาสํ โย เวทิ สคฺคาปายญฺจ ปสฺสติ
อโถ ชาติกฺขยํ ปตฺโต อภิญฺญา โวสิโต มุนิ
สพฺพโวสิตโวสานํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" บุคคลใด รู้ขันธ์ที่อาศัยอยู่ในก่อน, ทั้งเห็น
สวรรค์และอบาย, อนึ่ง บรรลุความสิ้นไปแห่งชาติ
เสร็จกิจแล้ว เพราะรู้ยิ่ง เป็นมุนี, เราเรียกบุคคล
นั้น ซึ่งมีพรหมจรรย์อันอยู่เสร็จสรรพแล้วว่า เป็น
พราหมณ์."

แก้อรรถ


พึงทราบเนื้อความแห่งพระคาถานั้นว่า :-
บุคคลใด รู้ขันธ์ที่อาศัยอยู่ในก่อนอย่างแจ้งชัด เห็นสวรรค์ต่างด้วย
เทวโลก 261 ชั้น และอบาย 4 ด้วยทิพยจักษุ อนึ่ง บรรลุพระอรหัต
1. กามาพจร 6 รูปพรหม 16 อรูปพรหม 4 รวมเป็น 26.

กล่าวคือความสิ้นไปแห่งชาติ เสร็จกิจแล้ว เพราะรู้ยิ่งซึ่งธรรมควรรู้ยิ่ง
กำหนดรู้ธรรมที่ควรกำหนดรู้ ละธรรมที่ควรละ ทำให้แจ้งซึ่งธรรม
ที่ควรทำให้แจ้ง คือบรรลุพระนิพพานหรือบรรลุพรหมจรรย์อันคนอยู่จบ
แล้ว ชื่อว่า เป็นมุนี เพราะเป็นผู้บรรลุภาวะแห่งผู้รู้ ด้วยปัญญาอันเป็น
เหตุสิ้นไปแห่งอาสวะ, เราเรียกบุคคลนั้นซึ่งชื่อว่ามีพรหมจรรย์อยู่เสร็จ-
สรรพแล้ว เพราะความเป็นผู้อยู่จบพรหมจรรย์ อันเป็นที่สุดแห่งกิเลส
ทั้งสิ้น คือพระอรหัตมรรคญาณว่า เป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น.
ฝ่ายพราหมณ์ มีใจเลื่อมใสแล้ว ตั้งอยู่ในสรณะทั้งหลาย ประกาศ
ความเป็นอุบาสกแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องเทวหิตพราหมณ์ จบ
พราหมณวรรควรรณนา จบ.
วรรคที่ 26 จบ.

รวมวรรคที่มีในคาถาธรรมบท คือ



[ 37 ] ยมกวรรค อัปปมาทวรรค จิตตวรรค ปุปผวรรค พาลวรรค
บัณฑิตวรรค อรหันตวรรค สหัสสวรรค ปาปวรรค ทัณฑวรรค ชราวรรค
อัตตวรรค โลกวรรค พุทธวรรค สุขวรรค ปิยวรรค โกธวรรค มลวรรค
ธัมมัฏฐวรรค มรรควรรค รวมเป็น 20 วรรค ปกิณณกวรรค นิรยวรรค
นาควรรค ตัณหาวรรค ภิกขุวรรค พราหมณวรรค รวมทั้งหมดนี้เป็น
26 วรรค อันพระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ทรงแสดงแล้ว
ในยมกวรรค มี 20 คาถา ในอัปปมาทวรรคมี 1 คาถา ในจิตตวรรคมี 11
คาถา ในปุปผวรรคมี 16 คาถา ในพาลวรรคมี 17 คาถา ในบัณฑิตวรรค
มี 14 คาถา ในอรหันตวรรคมี 10 คาถา ในสหัสสวรรคมี 16 คาถา
ในปาปวรรคมี 13 คาถา ในทัณฑวรรคมี 17 คาถา ในชราวรรค
มี 11 คาถา ในอัตตวรรคมี 12 คาถา ในโลกวรรคมี 12 คาถา
ในพุทธวรรคมี 16 คาถา ในสุขวรรคและปิยวรรคมีวรรคละ 12 คาถา
ในโกธวรรคมี 14 คาถา ในมลวรรคมี 21 คาถา ในธัมมัฏฐวรรค
มี 17 คาถา ในมรรควรรคมี 16 คาถา ในปกิณณกวรรคมี 16 คาถา
ในนิรยวรรคและนาควรรคมีวรรคละ 14 คาถา ในตัณหาวรรคมี 22 คาถา
ในภิกขุวรรคมี 23 คาถา ในพราหมณวรรคอันเป็นวรรคที่สุดมี 40 คาถา
คาถา 423 คาถา อันพระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์ ทรง
แสดงไว้ในนิบาตในธรรมบท.
จบคาถาธรรมบท