เมนู

34. เรื่องภิกษุผู้เคยเป็นนักฟ้อนรูปที่ 1 [297]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภภิกษุผู้เคยเป็น
นักฟ้อนรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " หิตฺวา มานุสกํ " เป็นต้น.

นักฟ้อนออกบวชได้บรรลุพระอรหัต


ได้ยินว่า นักฟ้อนนั้นเที่ยวเล่นกีฬาคือการฟ้อนชนิดหนึ่ง ฟัง
ธรรมกถาของพระศาสดา บวชแล้วบรรลุพระอรหัต. เมื่อภิกษุนั้นกำลัง
เข้าไปบิณฑบาตกับภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ภิกษุทั้งหลาย
เห็นบุตรของนักฟ้อนคนหนึ่งกำลังเล่นอยู่ จึงถามว่า " ผู้มีอายุ บุตรของ
นักฟ้อนนั่น เล่นกีฬาที่ท่านเล่นแล้ว ๆ, ท่านยังมีความเยื่อใยในกีฬา
ชนิดนี้อยู่หรือหนอแล ?" เมื่อภิกษุนั้นตอบว่า " ไม่มี " จึงพูดกันว่า
" ท่านผู้เจริญ ภิกษุนี้กล่าวไม่จริง พยากรณ์พระอรหัตผล."
พระศาสดาทรงสดับคำของภิกษุเหล่านั้นแล้ว ตรัสว่า " ภิกษุ
ทั้งหลาย บุตรของเราก้าวล่วงกิเลสเครื่องประกอบทั้งปวงได้แล้ว" ดังนี้
แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
34. หิตฺวา มานุสกํ โยคํ ทิพฺพํ โยคํ อุปจฺจคา
สพฺพโยควิสํยุตฺตํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" ผู้ใด ละกิเลสเครื่องประกอบ อันเป็นของ
มนุษย์ ล่วงกิเลสเครื่องประกอบอันเป็นของทิพย์ได้
แล้ว, เราเรียกผู้นั้น ซึ่งพรากกิเลสเครื่องประกอบ
ทั้งปวงได้แล้วว่า เป็นพราหมณ์."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า มานุสกํ โยคํ ได้แก่ อายุและ
กามคุณทั้ง 5 อันเป็นของมนุษย์. แม้ในกิเลสเครื่องประกอบอันเป็นทิพย์
ก็นัยนี้เหมือนกัน.
บทว่า อุปจฺจคา เป็นต้น ความว่า ผู้ใดละกิเลสเครื่องประกอบ
อันเป็นของมนุษย์ ก้าวล่วงกิเลสเครื่องประกอบอันเป็นทิพย์ได้แล้ว,
เราเรียกผู้นั้น ซึ่งพรากกิเลสเครื่องประกอบทั้งหมดแม้ 4 อย่างใดแล้วว่า
เป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องภิกษุผู้เคยเป็นนักฟ้อนรูปที่ 1 จบ.