เมนู

อานิสงส์ของการถวายทาน


ก็เมื่อเวลาเที่ยงล่วงไปแล้ว ภรรยาเศรษฐีล้างหม้อข้าวแล้วปิดตั้งไว้,
ฝ่ายเศรษฐีถูกความหิวบีบคั้น นอนแล้วหลับไป. เศรษฐีนั้นตื่นขึ้นใน
เวลาเย็น กล่าวกะภรรยาว่า " นางผู้เจริญ ฉันหิวเหลือเกิน, ข้าวตัง1
ก้นหม้อมีอยู่บ้างไหมหนอ ?" ภรรยานั้น แม้ทราบความที่ตนล้างหม้อตั้ง
ไว้แล้ว ก็ไม่กล่าวว่า " ไม่มี " " คิดว่าเราเปิดหม้อข้าวแล้วจึงจะบอก"
ดังนี้แล้ว จึงลุกขึ้นไปสู่ที่ใกล้หม้อข้าวแล้วเปิดหม้อข้าว.
ในขณะนั้นเอง หม้อข้าวเต็มด้วยภัต มีสีเช่นกับดอกมะลิตูม ได้
ดุนฝาละมีตั้งอยู่แล้ว. ภรรยานั้นเห็นภัตนั้นแล้ว เป็นผู้มีสรีระอันปิติถูก
ต้องแล้ว กล่าวกะเศรษฐีว่า " จงลุกขึ้นเถิดนาย, ดิฉันล้างหม้อข้าวปิด
ไว้, แต่หม้อข้าวนั้นนั่นเต็มด้วยภัต มีสีเช่นกับด้วยดอกมะลิตูม, ชื่อว่า
บุญทั้งหลายควรที่จะกระทำ, ชื่อว่าทานควรจะให้; ขอท่านจงลุกขึ้นเถิด
นาย, บริโภคเสียเถิด." ภรรยานั้นได้ให้ภัตแก่บิดาและบุตรทั้งสองแล้ว.
เมื่อบิดาและบุตรนั้นบริโภคเสร็จแล้ว นางนั่งบริโภคกับด้วยลูกสะใภ้แล้ว
ได้ให้ภัตแก่นายปุณณะ. ที่แห่งภัตอันชนเหล่านั้นตักแล้ว ๆ ย่อมไม่สิ้น
ไป. ปรากฏเฉพาะตรงที่ตักด้วยทัพพีคราวเดียวเท่านั้น.
ในวันนั้นนั่นแล ฉางเป็นต้น ก็กลับเต็มแล้วโดยทำนองที่เต็มใน
ก่อนนั่นแล. นางให้กระทำการโฆษณาในเมืองว่า " ภัตเกิดขึ้นแล้วใน
เรือนของเศรษฐี, ผู้มีความต้องการด้วยภัตอันเป็นพืชจงมารับเอา."
มนุษย์ทั้งหลาย ถือเอาภัตอันเป็นพืชจากเรือนของเศรษฐีนั้นแล้ว. แม้
ชาวชมพูวีปทั้งสิ้น ก็อาศัยเศรษฐีนั้น ได้ชีวิตแล้วนั่นแล.
1. เมล็ดข้าวอันไฟไหม้ทั้งหลาย.