เมนู

บรรดาเด็กทั้งสองนั้น มารดาบิดาได้ตั้งชื่อของผู้พี่ชายว่า " เสนาะ"
ของผู้น้องชายว่า " อปราชิต." เมื่อพี่น้องทั้งสองนั้น กำลังรวบรวม
ขุมทรัพย์อยู่ ในเวลาเติบโตแล้ว,1 เสนกุฎุมพี ได้ฟังการป่าวร้องใน
พันธุมดีนครของอุบาสกผู้โฆษณาธรรมว่า " พุทธรัตนะเกิดขึ้นแล้วใน
โลก, ธรรมรัตนะเกิดขึ้นแล้วในโลก, สังฆรัตนะเกิดขึ้นแล้วในโลก,
พวกท่านจงให้ทานทั้งหลาย จงทำบุญทั้งหลาย วันนี้เป็นดิถีที่ 14
วันนี้เป็นดิถีที่ 15, พวกท่านจงทำอุโบสถ จงฟังธรรม" เห็นมหาชน
ถวายทานในกาลก่อนภัตแล้ว ไปเพื่อฟังธรรมในกาลภายหลังภัต จึงถามว่า
" พวกท่านจะไปไหน ? เมื่อมหาชนบอกว่า " พวกฉันจะไปสู่สำนัก
พระศาสดา เพื่อฟังธรรม." จึงพูดว่า " แม้ฉันก็จักไป " แล้วก็ไปพร้อม
กับชนเหล่านั้นทีเดียว นั่งแล้วในที่สุดบริษัท.
พระศาสดาทรงทราบอัธยาศัยของเขา จึงตรัสอนุปุพพีกถา. เขาฟัง
ธรรมของพระศาสดาแล้ว เกิดความอุตสาหะในบรรพชา จึงทูลขอ
บรรพชากะพระศาสดา.
ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสถามเขาว่า " ก็พวกญาติที่ท่านจะพึงอำลา
มีไหม ?"
เสนกุฎุมพี. มี พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ถ้าอย่างนั้น ท่านไปอำลา แล้วจงมา.

พี่ชายลาน้องชายออกบวชแล้วได้บรรลุพระอรหัต


เขาไปสู่สำนักของน้องชายแล้ว กล่าวว่า " ทรัพย์สมบัติใด มีอยู่
ในตระกูลนี้ ทรัพย์สมบัตินั้นทั้งหมด จงเป็นของเจ้า."
1. หมายความว่า ได้ตั้งหลักฐานในการครองเรือนแล้ว.

น้องชาย. ก็พี่เล่า ? ขอรับ.
เสนกุฎุมพี. ฉันจักบวชในสำนักของพระศาสดา.
น้องชาย. พี่พูดอะไร ? ฉันเมื่อมารดาตายแล้ว ก็ได้พี่เป็นเหมือน
มารดา, เมื่อบิดาตายแล้ว ก็ได้พี่เป็นเหมือนบิดา; ตระกูลนี้ก็มีโภคะมาก,
พี่ดำรงอยู่ในเรือนนี่แหละ ก็สามารถจะทำบุญได้. พี่อย่าทำอย่างนั้น.
เสนกุฎุมพี. ฉันฟังธรรมในสำนักของพระศาสดาแล้ว, ฉันดำรง
อยู่ในท่ามกลางเรือน ไม่อาจบำเพ็ญธรรมนั้นได้; ฉันจักบวชให้ได้,
เจ้าจงกลับ.
เขายังน้องชายให้กลับไปด้วยอาการอย่างนั้นแล้ว ได้บรรพชา
อุปสมบทในสำนักพระศาสดาแล้ว ต่อกาลไม่นานนัก ก็บรรลุพระอรหัต.
ฝ่ายน้องชาย คิดว่า " เราจักทำสักการะแก่บรรพชิตผู้พี่ชาย" จึง
ถวายทานแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขสิ้น 7 วัน ไหว้พี่ชายแล้ว
กล่าวว่า " ท่านขอรับ ท่านท่าการสลัดออกจากภพแห่งตนได้แล้ว, ส่วน
กระผม ยังเป็นผู้พัวพันด้วยกามคุณ 5,1 ไม่อาจออกบวชได้, ขอท่านจง
บอกบุญกรรมอันใหญ่ที่สมควร แก่กระผมผู้ดำรงอยู่ในเรือนนี่แหละ."
ลำดับนั้น พระเถระกล่าวกะน้องชายนั้นว่า " ดีละ เจ้าผู้เป็น
บัณฑิต เจ้าจงให้ สร้างพระคันธกุฎี สำหรับพระศาสดา."

น้องชายสร้างพระคันธกุฎีถวายพระศาสดา


น้องชายนั้นรับว่า "สาธุ" แล้วยังชนให้นำไม้ต่าง ๆ มาแล้วให้
ถากเพื่อประโยชน์แก่ทัพสัมภาระทั้งหลายมีเสาเป็นต้น ให้ทำเสาทั้งหมด
ให้ขจิตด้วยแก้ว 7 ประการ คือต้นหนึ่งขจิตด้วยทองคำ ต้นหนึ่งขจิต
1. คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันน่าใคร่.