เมนู

อย่างเจ้าไปไร่อ้อย, เจ้าควรจะถือเอาลำอ้อยมา 1 ลำ หรือ 2 ลำมิใช่
หรือ ?" กล่าวว่า " พี่ ถูกละ, ฉันถือเอาอ้อยมา 2 ลำ, แต่ฉันเห็น
พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง จึงถวายรสแต่ลำอ้อยของฉัน แล้วถวายรสแต่
ลำอ้อยแม้ของพี่ ด้วยคิดว่า เราจักให้มูลค่าหรือส่วนบุญ;' พี่จักรับเอา
มูลค่าอ้อยนั้นหรือจักรับเอาส่วนบุญ ? "
พี่ชาย. ก็พระปัจเจกพุทธเจ้า ทำอะไร ?
น้องชาย. ท่านดื่มรสจากลำอ้อยของฉันแล้ว ก็ถือเอารสจากลำอ้อย
ของพี่ไปสู่เขาคันธมาทน์โดยอากาศ แล้วได้ให้แก่พระปัจเจกพุทธเจ้า
500 รูป.

พี่ชายเลื่อมใสขออนุโมทนาส่วนบุญ


พี่ชายนั้น เมื่อเขากำลังกล่าวอยู่นั้นแหละ, เป็นผู้มีสรีระอันปีติ
ถูกต้องแล้ว หาระหว่างมิได้ ได้ทำความปรารถนาว่า " การบรรลุธรรมที่
พระปัจเจกพุทธเจ้านั้นเห็นแล้วนั่นแหละ พึงมีแก่เรา." น้องชายปรารถนา
สมบัติ 3 อย่าง ส่วนพี่ชายปรารถนาพระอรหัต ด้วยประการฉะนี้.
นี้เป็นบุรพกรรมของชนทั้งสองนั้น.

สองพี่น้องได้เกิดร่วมกันอีกในชาติต่อมา


ชนทั้งสองนั้น ดำรงอยู่ตลอดอายุแล้ว เคลื่อนจากอัตภาพนั้นแล้ว
บังเกิดในเทวโลก ยังพุทธันดรหนึ่งให้สิ้นไป. ในเวลาชนทั้งสองนั้นไป
เทวโลกนั่นแหละ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าวิปัสสีเสด็จอุบัติ
ขึ้นแล้วในโลก.
พี่น้องทั้งสองแม้นั้น เคลื่อนจากเทวโลกแล้ว, ผู้พี่ชายก็คงเป็น
พี่ชาย ผู้น้องชายก็คงเป็นน้องชาย ถือปฏิสนธิในเรือนแห่งตระกูลหนึ่ง
ในพันธุมดีนคร.

บรรดาเด็กทั้งสองนั้น มารดาบิดาได้ตั้งชื่อของผู้พี่ชายว่า " เสนาะ"
ของผู้น้องชายว่า " อปราชิต." เมื่อพี่น้องทั้งสองนั้น กำลังรวบรวม
ขุมทรัพย์อยู่ ในเวลาเติบโตแล้ว,1 เสนกุฎุมพี ได้ฟังการป่าวร้องใน
พันธุมดีนครของอุบาสกผู้โฆษณาธรรมว่า " พุทธรัตนะเกิดขึ้นแล้วใน
โลก, ธรรมรัตนะเกิดขึ้นแล้วในโลก, สังฆรัตนะเกิดขึ้นแล้วในโลก,
พวกท่านจงให้ทานทั้งหลาย จงทำบุญทั้งหลาย วันนี้เป็นดิถีที่ 14
วันนี้เป็นดิถีที่ 15, พวกท่านจงทำอุโบสถ จงฟังธรรม" เห็นมหาชน
ถวายทานในกาลก่อนภัตแล้ว ไปเพื่อฟังธรรมในกาลภายหลังภัต จึงถามว่า
" พวกท่านจะไปไหน ? เมื่อมหาชนบอกว่า " พวกฉันจะไปสู่สำนัก
พระศาสดา เพื่อฟังธรรม." จึงพูดว่า " แม้ฉันก็จักไป " แล้วก็ไปพร้อม
กับชนเหล่านั้นทีเดียว นั่งแล้วในที่สุดบริษัท.
พระศาสดาทรงทราบอัธยาศัยของเขา จึงตรัสอนุปุพพีกถา. เขาฟัง
ธรรมของพระศาสดาแล้ว เกิดความอุตสาหะในบรรพชา จึงทูลขอ
บรรพชากะพระศาสดา.
ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสถามเขาว่า " ก็พวกญาติที่ท่านจะพึงอำลา
มีไหม ?"
เสนกุฎุมพี. มี พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ถ้าอย่างนั้น ท่านไปอำลา แล้วจงมา.

พี่ชายลาน้องชายออกบวชแล้วได้บรรลุพระอรหัต


เขาไปสู่สำนักของน้องชายแล้ว กล่าวว่า " ทรัพย์สมบัติใด มีอยู่
ในตระกูลนี้ ทรัพย์สมบัตินั้นทั้งหมด จงเป็นของเจ้า."
1. หมายความว่า ได้ตั้งหลักฐานในการครองเรือนแล้ว.