เมนู

28. เรื่องพระมหาโมคคัลลานเถระ [291]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระมหา-
โมคคัลลานเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " ยสฺสาลยา " เป็นต้น.
พระศาสดาทรงแสดงลักษณะแห่งพราหมณ์
เรื่องก็เช่นกับเรื่องมีในก่อนนั่นเอง. แต่ในเรื่องนี้ พระศาสดา
ตรัสความที่พระมหาโมคคัลลานเถระเป็นผู้ไม่มีตัณหาแล้ว ตรัสพระคาถา
นี้ว่า :-
28. ยสฺสาลยา น วิชฺชนฺติ อญฺญาย อกถงฺกถี
อมโตคธํ อนุปฺปตฺตํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" ความอาลัยของบุคคลใดไม่มี, บุคคลใดรู้ชัด
แล้ว เป็นผู้ไม่มีความสงสัยเป็นเหตุกล่าวว่าอย่างไร,
เราเรียกบุคคลนั้น ผู้หยั่งลงสู่อมตะ ตามบรรลุแล้วว่า
เป็นพราหมณ์."

แก้อรรถ


ตัณหา ชื่อว่า อาลัย ในพระคาถานั้น.
บาทพระคาถาว่า อญฺญาย อกถงฺกถี ความว่า ผู้รู้วัตถุ 8 ตามความ
เป็นจริงแล้ว เป็นผู้ไม่มีความสงสัย ด้วยความสงสัยซึ่งมีวัตถุ 8.
บาทพระคาถาว่า อมโตคธํ อนุปฺปตฺต ความว่า เราเรียกบุคคล
นั้น ผู้หยั่งลงสู่พระนิพพานชื่ออมตะ ตามบรรลุแล้ว ว่าเป็นพราหมณ์.

ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพระมหาโมคคัลลานเถระ จบ.

29. เรื่องพระเรวตเถระ [292]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในบุพพาราม ทรงปรารภพระเรวตเถระ
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " โยธ ปุญฺญญุจ " เป็นต้น.

พระขีณาสพไม่มีบุญและบาป


เรื่องข้าพเจ้าให้พิสดารแล้ว ในอรรถกถาแห่งพระคาถาว่า " คาเม
วา ยทิ วา รญฺเญ "
เป็นต้นแล้วนั่นแล.
จริงอยู่ ในเรื่องนั้นข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า " ในวันรุ่งขึ้น ภิกษุทั้งหลาย
สนทนากันว่า " น่าอัศจรรย์ สามเณรมีลาภ, น่าอัศจรรย์สามเณรมีบุญ;
รูปเดียว (แท้) สร้างเรือนยอด 500 หลังเพื่อภิกษุ 500 รูปได้."
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอ
นั่งประชุมกันด้วยกถาอะไรหนอ ?" เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า " ด้วย
กถาชื่อนี้ " จึงตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย บุญย่อมไม่มีแก่บุตรของเรา,
บาปก็มิได้มี; บุญบาปทั้งสองเธอละเสียแล้ว" ดังนี้แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า:-
29. โยธ ปุญฺญญฺจ ปาปญฺจ อุโภ สงฺคํ อุปจฺจคา
อโสกํ วิรชํ สุทฺธํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" ผู้ใดล่วงบุญและบาปทั้งสอง และกิเลสเครื่อง
ข้องเสียได้ในโลกนี้, เราเรียกผู้นั้น ซึ่งไม่มีความโศก
มีธุลีไปปราศแล้ว ผู้บริสุทธิ์แล้ว ว่าเป็นพราหมณ์."