เมนู

พระขีณาสพกล่าวว่า " ผู้มีอายุทั้งหลาย ผ้าสาฎกยาวหรือสั้น หยาบ
หรือละเอียดก็ช่างเถิด, ความอาลัยในผ้าสาฎกนั้นของผมไม่มี ผมถือเอา
ด้วยความสำคัญว่าผ้าบังสุกุล (ต่างหาก)."
ภิกษุทั้งหลายฟังคำนั้นแล้ว กราบทูลแด่พระตถาคตว่า " พระเจ้าข้า
ภิกษุนั่นกล่าวคำไม่จริง พยากรณ์พระอรหัตผล."

พระขีณาสพไม่ถือเอาของคนอื่นด้วยเจตนาขโมย


พระศาสดาตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นกล่าวคำจริง, ธรรมดา
พระขีณาสพทั้งหลาย ย่อมไม่ถือเอาสิ่งของ ๆ คนเหล่าอื่น " ดังนี้แล้ว
ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
26. โยธ ทีฆํ ว รสฺสํ วา อณุํ ถูลํ สุภาสุภํ
โลเก อทินฺนํ นาทิยติ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" ผู้ใด ไม่ถือเอาของยาวหรือสั้น น้อยหรือใหญ่
งามหรือไม่งาม อันเขาไม่ให้แล้ว ในโลกนี้, เรา
เรียกผู้นั้นว่า เป็นพราหมณ์."

แก้อรรถ


พึงทราบเนื้อความแห่งพระคาถานั้น (ดังนี้)1:-
ความว่า บุคคลใด ย่อมไม่ถือเอาสิ่งของยาวหรือสั้น บรรดาวัตถุ
ทั้งหลายมีผ้าสาฎกและเครื่องประดับเป็นต้น น้อยหรือใหญ่ บรรดาวัตถุ
ทั้งหลาย มีแก้วมณีและแก้วมุกดาเป็นต้น งามหรือไม่งาม ด้วยอำนาจ
1. ตสฺสตฺโถ....อตฺโถ นี้อาจจะแปลได้อีกนัยหนึ่งว่า เนื้อความว่า....ดังนี้ เป็นเนื้อความแห่ง
คำอันเป็นคาถานั้น.