เมนู

15. เฉตฺวา นทฺธึ วรตฺตญฺจ สนฺทา1นํ สหนุกฺกมํ
อุกฺขิตฺตปลิฆํ พุทฺธํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" เราเรียกบุคคลผู้ตัดชะเนาะ เชือก และเครื่อง
ต่อพร้อมทั้งหลาย ผู้มีลิ่มสลักอันถอนขึ้นแล้ว ผู้รู้แล้ว
นั้นว่า เป็นพราหมณ์."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นทฺธึ ได้แก่ ความโกรธอันเป็นไปโดย
ความเป็นเครื่องผูกรัด.
บทว่า วรตฺตํ ได้แก่ ตัณหาอันเป็นไปโดยความเป็นเครื่องผูก.
บาทพระคาถาว่า สนฺธานํ สหนุกฺกมํ เป็นต้น ความว่า เราเรียก
บุคคลผู้ตัดเครื่องต่อคือทิฏฐิ 622 อันประกอบด้วยสายคืออนุสัย แม้ทั้งปวง
นี้ตั้งอยู่แล้ว ผู้ชื่อว่า มีลิ่มสลักอันถอนขึ้นแล้ว เพราะความที่ลิ่มสลักคือ
อวิชชาเป็นของอันตนถอนขึ้นแล้ว ผู้ชื่อว่า รู้แล้วเพราะรู้สัจจะ 4 นั้นว่า
เป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ภิกษุ 500 รูปตั้งอยู่ในพระอรหัตผลแล้ว. เทศนา
ได้มีประโยชน์แม้แก่ชนผู้ประชุมกันแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องพราหมณ์ 2 คน จบ.
1. ม. โป. และ อรรถกถา เป็น สนฺธานํ. 2. ที. สี. 9/49.

16. เรื่องอักโกสกภารทวาชพราหมณ์ [279]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวัน ทรงปรารภอักโกสก-
ภารทวาชพราหมณ์ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " อกฺโกสํ " เป็นต้น.

นางธนัญชานีถูกด่า


ความพิสดารว่า นางพราหมณีชื่อธนัญชานี ของภารทวาชพราหมณ์
ผู้พี่ชายของอักโกสกภารทวาชพราหมณ์ ได้เป็นโสดาบันแล้ว. นางจาม
ก็ดี ไอก็ดี พลาดก็ดี เปล่งอุทานนี้ว่า " นโม ตสฺส ภควโต อรหโต
สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
(ความนอบน้อม จงมีแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็น
พระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ พระองค์นั้น)."
วันหนึ่ง ในเวลาที่อังคาสพราหมณ์ นางพลาดแล้ว เปล่งอุทาน
ขึ้นอย่างนั้นนั่นแล ด้วยเสียงอันดัง. พราหมณ์โกรธแล้ว กล่าวว่า " หญิง
ถ่อยนี้ พลาดแล้วในที่ใดที่หนึ่ง ย่อมกล่าวสรรเสริญพระสมณะหัวโล้นนั้น
อย่างนี้ทุกที " ดังนี้แล้ว กล่าวว่า " หญิงถ่อย บัดนี้ข้าจักไปยกวาทะต่อ
ศาสดานั้นของเจ้า."
ลำดับนั้น นางจึงกล่าวกะพราหมณ์นั้นว่า " จงไปเถิดพราหมณ์
ดิฉันไม่เห็นบุคคลผู้จะยกวาทะต่อพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นได้: เออ ก็ครั้น
ไปแล้ว จงทูลถามปัญหากะพระผู้มีพระภาคเจ้า." เขาไปสู่สำนักพระ-
ศาสดา ไม่ถวายบังคมเลย ยืนอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่งแล้ว, เมื่อจะทูลถาม
ปัญหา จึงกล่าวคาถานี้ว่า:-