เมนู

15. เรื่องพราหมณ์ 2 คน [278]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพราหมณ์
2 คน ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " เฉตฺวา นทฺธึ " เป็นต้น.

พราหมณ์สองคนเอาโคแข่งขันกัน


ได้ยินว่า ในพราหมณ์สองคนนั้น พราหมณ์คนหนึ่งมีโคชื่อว่า
จูฬโรหิต, คนหนึ่งมีโคชื่อว่ามหาโรหิต.
ในวันหนึ่ง เขาทั้งสองเถียงกันว่า " โคของท่านแข็งแรง หรือโค
ของเราแข็งแรง" ดังนี้แล้ว ต่างกล่าวกันว่า " ประโยชน์อะไรของเรา
ทั้งหลาย ด้วยการเถียงกัน, เราแข่งกันแล้ว จักรู้ " ยังเกวียนให้เต็มด้วย
ทรายที่ฝั่งแม่น้ำอจิรวดี แล้วเทียมโค.
ในขณะนั้น แม้ภิกษุทั้งหลายก็ได้ไปแล้วในที่นั้น เพื่อสรงน้ำ.
พราหมณ์ทั้งหลายแข่งโคกันแล้ว. เกวียนได้หยุดนิ่งอยู่, ส่วนชะเนาะและ
เชือกทั้งหลายขาดแล้ว.
ภิกษุทั้งหลายเห็นแล้ว ไปยังวิหาร กราบทูลเนื้อความนั้นแด่พระ-
ศาสดา.

ควรตัดชะเนาะและเชือกภายใน


พระศาสดาตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ชะเนาะและเชือกนั่นเป็นแต่
ภายนอก, คนใดคนหนึ่งก็ตัดชะเนาะและเชือกเหล่านั้นได้ทั้งนั้น, ฝ่าย
ภิกษุตัดชะเนาะคือความโกรธ และเชือกคือตัณหาอันเป็นไปภายในควร"
ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-

15. เฉตฺวา นทฺธึ วรตฺตญฺจ สนฺทา1นํ สหนุกฺกมํ
อุกฺขิตฺตปลิฆํ พุทฺธํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" เราเรียกบุคคลผู้ตัดชะเนาะ เชือก และเครื่อง
ต่อพร้อมทั้งหลาย ผู้มีลิ่มสลักอันถอนขึ้นแล้ว ผู้รู้แล้ว
นั้นว่า เป็นพราหมณ์."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นทฺธึ ได้แก่ ความโกรธอันเป็นไปโดย
ความเป็นเครื่องผูกรัด.
บทว่า วรตฺตํ ได้แก่ ตัณหาอันเป็นไปโดยความเป็นเครื่องผูก.
บาทพระคาถาว่า สนฺธานํ สหนุกฺกมํ เป็นต้น ความว่า เราเรียก
บุคคลผู้ตัดเครื่องต่อคือทิฏฐิ 622 อันประกอบด้วยสายคืออนุสัย แม้ทั้งปวง
นี้ตั้งอยู่แล้ว ผู้ชื่อว่า มีลิ่มสลักอันถอนขึ้นแล้ว เพราะความที่ลิ่มสลักคือ
อวิชชาเป็นของอันตนถอนขึ้นแล้ว ผู้ชื่อว่า รู้แล้วเพราะรู้สัจจะ 4 นั้นว่า
เป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ภิกษุ 500 รูปตั้งอยู่ในพระอรหัตผลแล้ว. เทศนา
ได้มีประโยชน์แม้แก่ชนผู้ประชุมกันแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องพราหมณ์ 2 คน จบ.
1. ม. โป. และ อรรถกถา เป็น สนฺธานํ. 2. ที. สี. 9/49.