เมนู

12. เรื่องนางกิสาโคตมี [275]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏ ทรงปรารภนางกิสา-
โคตมี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ปํสุกูลธรํ" เป็นต้น.

นางโคตมีเห็นท้าวสักกะ


ได้ยินว่า ในกาลนั้นท้าวสักกะเข้าไปเฝ้าพระศาสดา พร้อมกับ
เทวบริษัท ในที่สุดแห่งปฐมยาม ถวายบังคมแล้วประทับนั่ง ทรงสดับ
ธรรมกถาอันเป็นที่ตั้งแหงความระลึกถึงอยู่ ณ ที่ส่วนข้างหนึ่ง.
ในขณะนั้น นางกิสาโคตมีคิดว่า " เราจักเฝ้าพระศาสดา " เหาะ
มาทางอากาศแล้ว เห็นท้าวสักกะ จึงกลับไปเสีย1 ท้าวเธอทอดพระเนตร
เห็นนางผู้ถวายบังคมแล้ว กลับไปอยู่ ทูลถามพระศาสดาว่า " พระเจ้าข้า
ภิกษุณีนั่นชื่อไร ? พอมาเห็นพระองค์แล้วก็กลับ."

นางกิสาโคตมีเลิศทางทรงผ้าบังสุกุล


พระศาสดาตรัสว่า " มหาบพิตร ภิกษุณีนั่น ชื่อกิสาโคตมี เป็น
ธิดาของตถาคต เป็นยอดแห่งพระเถรีผู้ทรงผ้าบังสุกุลทั้งหลาย" ดังนี้
ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
12. ปํสุกูลธรํ ชนฺตุํ กิสนฺธมนิสนฺถตํ
เอกํ วนสฺมึ ฌายนฺตํ ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณํ.
" เราเรียกชนผู้ทรงผ้าบังสุกุล ผู้ผอม สะพรั่ง
ด้วยเอ็น ผู้เพ่งอยู่ผู้เดียวในป่านั้นว่า เป็นพราหมณ์."

1. การเที่ยวไปกลางคืนเสมอ ๆ ภิกษุณีมิได้ประพฤติ.

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กิสํ ความว่า ก็ชนทั้งหลายผู้ทรงผ้า
บังสุกุล บำเพ็ญข้อปฏิบัติอันสมควรแก่ตน ย่อมเป็นผู้มีเนื้อและโลหิต
น้อย และเป็นผู้มีตัวสะพรั่งด้วยเอ็น; เหตุนั้น พระศาสดาจึงตรัสอย่าง
นั้น.
สองบทว่า เอกํ วนสฺมึ ความว่า เราย่อมเรียกบุคคลผู้เพ่งอยู่ผู้เดียว
ในที่สงัดนั้นว่า เป็นพราหมณ์.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องนางกิสาโคตมี จบ.