เมนู

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สมจริยาย คือ เพราะความประพฤติ
ระงับซึ่งอกุศลธรรมทั้งปวง.
บทว่า ตสฺมา ความว่า บุคคลที่พระศาสดาตรัสเรียกว่า ' พราหมณ์ '
เพราะความเป็นผู้มีบาปอันลอยแล้ว, บุคคลที่พระศาสดาตรัสเรียกว่า
' สมณะ ' เพราะความประพฤติสงบซึ่งอกุศลธรรมทั้งหลาย; เหตุนั้น ผู้ใด
ประพฤติขับไล่ คือขจัดมลทินมีราคะเป็นต้นของตนอยู่, แม้ผู้นั้น พระ-
ศาสดาก็ตรัสเรียกว่า ' บรรพชิต ' เพราะการขับไล่นั้น.
ในกาลจบเทศนา บรรพชิตนั้นดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว, เทศนา
ได้มีประโยชน์แม้แก่ชนผู้ประชุมกันแล้ว ดังนี้แล.
เรื่องบรรพชิตรูปใดรูปหนึ่ง จบ.

7. เรื่องพระสารีบุตรเถระ [270]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระสารีบุตร-
เถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " น พฺราหฺมณสฺส " เป็นต้น.
พระเถระถูกพราหมณ์ตี
ได้ยินว่า มนุษย์เป็นอันมากในที่แห่งหนึ่ง กล่าวคุณกถาของพระ-
เถระว่า " น่าชม พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา ประกอบแล้วด้วยกำลังคือ
ขันติ, เมื่อชนเหล่าอื่นด่าอยู่ก็ตาม ประหารอยู่ก็ตาม แม้เหตุสักว่าความ
โกรธ ย่อมไม่มี."
ครั้งนั้น พราหมณ์มิจฉาทิฏฐิคนหนึ่ง ถามว่า " ใครนั่น ไม่โกรธ."
พวกมนุษย์. พระเถระของพวกฉัน .
พราหมณ์. บุคคลผู้ยั่วให้ท่านโกรธ จักไม่มีกระมัง ?
พวกมนุษย์. พราหมณ์ ข้อนั้น หามีไม่.
พราหมณ์. ถ้าเช่นนั้น เราจักยั่วให้ท่านโกรธ.
พวกมนุษย์. ถ้าท่านสามารถไซร้, ก็จงยั่วให้พระเถระโกรธเถิด.
พราหมณ์นั้น คิดว่า " เอาละ, เราจักรู้กิจที่ควรทำ " ดังนี้แล้ว
เห็นพระเถระเข้าไปเพื่อภิกษา จึงเดินไปโดยส่วนข้างหลัง ได้ให้การ
ประหารด้วยฝ่ามืออย่างแรงที่กลางหลัง.
พระเถระมิได้คำนึงถึงเลยว่า " นี่ชื่ออะไรกัน" เดินไปแล้ว. ความ
เร่าร้อนเกิดขึ้นทั่วสรีระของพราหมณ์. เขาตกลงใจว่า " แหมพระผู้เป็นเจ้า
สมบูรณ์ด้วยคุณ" ดังนี้แล้ว หมอบลงแทบเท้าของพระเถระ เรียนว่า