เมนู

5. เรื่องพระอานนทเถระ [268]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในปราสาทของอุบาสิกาชื่อมิคารมารดา
ทรงปรารภพระอานนทเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " ทิวา ตปติ
อาทิจฺโจ "
เป็นต้น.

รัศมีของวัตถุ 5 อย่างต่างกัน


ได้ยินว่า ในวันมหาปวารณา พระเจ้าปเสนทิโกสลทรงประดับ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ครบถ้วน ทรงถือเอาวัตถุทั้งหลายมีของหอมเป็นต้น
ได้เสด็จไปยังวิหารแล้ว .
ในขณะนั้น พระกาฬุทายีเถระนั่งเข้าฌานอยู่ที่ท้ายบริษัท. ก็คำว่า
' กาฬุทายีเถระ ' นั่น เป็นชื่อของท่านเอง. สรีระ (ของท่าน) มีสีเพียง
ดังทองคำ. ก็ในขณะนั้นพระจันทร์กำลังขึ้น, พระอาทิตย์กำลังอัสดงคต.
พระอานนท์เถระ แลดูรัศมีของพระอาทิตย์ซึ่งกำลังอัสดงคตและ
ของพระจันทร์ซึ่งกำลังขึ้น แล้วมองดูพระสรีโรภาสของพระราชา สรี-
โรภาสของพระเถระ และพระสรีโรภาสของพระตถาคต. ในท่านเหล่านั้น
พระศาสดาย่อมไพโรจน์ล่วงรัศมีทั้งปวง. พระเถระถวายบังคมพระศาสดา
แล้ว กราบทูลว่า " พระเจ้าข้า " ในวันนี้ เมื่อข้าพระองค์แลดูรัศมีเหล่านี้
อยู่, พระรัศมีของพระองค์เท่านั้นข้าพระองค์ชอบใจ, เพราะว่า พระสรีระ
ของพระองค์ ย่อมไพโรจน์ล่วงรัศมีทั้งปวง."
ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสกะท่านว่า " อานนท์ ธรรมดาพระอาทิตย์
ย่อมรุ่งเรืองในกลางวัน, พระจันทร์ ย่อมรุ่งเรืองในกลางคืน, พระราชา

ย่อมรุ่งเรืองในเวลาประดับแล้วเท่านั้น, พระขีณาสพ ละความระคนด้วย
หมู่แล้ว ย่อมรุ่งเรืองในภายในสมาบัติเท่านั้น, ส่วนพระพุทธเจ้า ย่อม
รุ่งเรืองด้วยเดช 5 อย่าง ทั้งในกลางคืน ทั้งในกลางวัน " ดังนี้แล้ว
ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
5. ทิวา ตปติ อาทิจฺโจ รตฺติมาภาติ จนฺทิมา
สนฺนทฺโธ ขตฺติโย ตปิต ฌายี ตปติ พฺรหฺมโณ
อถ สพฺพมโหรตฺตึ พุทฺโธ ตปติ เตชสา.
" พระอาทิตย์ ย่อมส่องแสงในกลางวัน,
พระจันทร์ ย่อมรุ่งเรืองในกลางคืน, กษัตริย์ ทรง
เครื่องรบแล้ว ย่อมรุ่งเรือง, พราหมณ์ผู้มีความเพ่ง
ย่อมรุ่งเรือง. ส่วนพระพุทธเจ้า ย่อมรุ่งเรืองด้วยเดช
ตลอดกลางวันและกลางคืน."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น สองบทว่า ทิวา ตปติ ความว่า พระอาทิตย์
ย่อมรุ่งเรืองเฉพาะในกลางวัน, แต่แม้ทางที่พระอาทิตย์นั้นไปในกลางคืน
หาปรากฏไม่.
บทว่า จนฺทิมา ความว่า แม้พระจันทร์ ที่พ้นแล้วจากหมอก
เป็นต้น ก็รุ่งเรืองเฉพาะในกลางคืน, หารุ่งเรืองในกลางวันไม่.
บทว่า สนฺนทฺโธ ความว่า พระราชาผู้ทรงประดับด้วยเครื่อง
อิสริยาภรณ์ทั้งปวงอันวิจิตรด้วยทองและแก้วมณี อันเสนามีองค์ 41
แวดล้อมแล้วเท่านั้น ย่อมรุ่งเรือง, ท้าวเธอประทับอยู่ด้วยเพศอันบุคคล
ไม่รู้ (ปลอมเพศ) หารุ่งเรืองไม่.
1. พลช้าง พลม้า พลรถ พลเดินเท้า.