เมนู

ทั้งหลาย ข้อนั้นอย่างไร " เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลเนื้อความนั้นแล้ว,
จึงตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ก็พวกเธอยังยินดีวาทะว่า เป็นพระอรหันต์
อยู่หรือ."
พวกภิกษุ. พวกข้าพระองค์ไม่ยินดี พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. เมื่อเป็นเช่นนั้น, คำนั้น เป็นคำกล่าวด้วยความ
เลื่อมใสของมนุษย์ทั้งหลาย, ภิกษุทั้งหลาย ไม่เป็นอาบัติในเพราะการ
กล่าวด้วยความเลื่อมใส; ก็แลอีกอย่างหนึ่ง ความรักใคร่ในพระอรหันต์
ทั้งหลายของพราหมณ์ มีประมาณยิ่ง; เหตุนั้น แม้พวกเธอตัดกระแส
ตัณหาแล้วบรรลุพระอรหันต์นั่นแล ควร" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงแสดง
ธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า:-
1. ฉินฺท โสตํ ปรกฺกมฺม กาเม ปนูท พฺราหฺมณ
สงฺขารานํ ขยํ ญตฺวา อกตญฺญูสิ พฺราหฺมณ.
" พราหมณ์ ท่านจงพยายามตัดกระแสตัณหา,
จงบรรเทากามทั้งหลายเสีย, ท่านรู้ความสิ้นไปแห่ง
สังขารทั้งหลายแล้ว เป็นผู้รู้พระนิพพานอันอะไร ๆ
กระทำไม่ได้นะ พราหมณ์."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปรกฺกมฺม เป็นต้น ความว่า ขึ้นชื่อว่า
กระแสตัณหา ใคร ๆ ไม่อาจเพื่อจะตัดได้ด้วยความพยายามมีประมาณ
น้อย; เหตุนั้นท่านจงพยายามตัดกระแสนั้น ด้วยความบากบั่นอย่างใหญ่
ซึ่งสัมปยุตด้วยญาณ คือจงบรรเทา ได้แก่ จงขับไล่กามแม้ทั้งสองเสียเถิด.
คำว่า พฺราหฺมณ นั้น เป็นคำร้องเรียกพระขีณาสพทั้งหลาย.

บทว่า สงฺขารานํ ความว่า รู้ความสิ้นไปแห่งขันธ์ 5.
บทว่า อกตญฺญู ความว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านจะเป็นผู้ชื่อว่า
อกตัญญ. เพราะรู้พระนิพพาน อันอะไร ๆ บรรดาโลกธาตุทั้งหลายมี
ทองคำเป็นต้น ทำไม่ได้.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพราหมณ์ผู้มีความเลื่อมใสมาก จบ.

2. เรื่องภิกษุมากรูป [265]



ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภภิกษุมากรูป
ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " ยทา ทฺวเยสุ ธมฺเมสุ " เป็นต้น.

พระสารีบุตรทูลถามปัญหาเพื่อพวกภิกษุ


ในวันหนึ่ง ภิกษุผู้อยู่ในทิศประมาณ 30 รูป มาถวายบังคมพระ-
ศาสดาแล้วนั่ง. พระสารีบุตรเถระเล็งเห็นอุปนิสัยแห่งพระอรหัตของภิกษุ
เหล่านั้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระศาสดา ยืนอยู่เทียว ทูลถามปัญหานี้ว่า
" พระเจ้าข้า ธรรมทั้งหลายที่พระองค์ตรัสเรียกว่า ' ธรรม 2 ประการ ๆ
ดังนี้; ธรรม 2 ประการนี้เป็นไฉนหนอแล ?"
ทีนั้น พระศาสดาตรัสกะท่านว่า " สารีบุตร สมถะและวิปัสสนา
เรียกว่าธรรม 2 ประการแล" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-
2. ยทา ทฺวเยสุ ธมฺเมสุ ปารคู โหติ พฺราหฺมโณ
อถสฺส สพฺเพ สํโยคา อตฺถํ คจฺฉนฺติ ชานโต.
" ในกาลใด พราหมณ์เป็นผู้ถึงฝั่งในธรรมสอง
ในกาลนั้น กิเลสเครื่องประกอบทั้งปวงของพราหมณ์
ผู้รู้อยู่ ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้."

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ยทา เป็นต้น ความว่า ในกาลใด
พระขีณาสพนี้เป็นผู้ถึงฝั่ง ในธรรมคือสมถะและวิปัสสนา อันตั้งอยู่โดย
ส่วน 2 ด้วยอำนาจแห่งการถึงฝั่งคืออภิญญาเป็นต้น, ในกาลนั้นกิเลส